23 มิถุนายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยกล่าวถึง สถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า อยากให้คนไทยทั้งหมดติดตามสถานการณ์ภายนอกประเทศด้วย เราสนใจแต่ในประเทศอย่างเดียวคงไม่พอ แม้ในประเทศไทยจะสถานการณ์ดีขึ้น ไม่ติดเชื้อ ติดเชื้อเป็นศูนย์ มากว่า 28 วันแล้ว ก็มีการเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการต่างๆ ซึ่งตรงนี้ขอให้ดูต่างประเทศด้วย เพราะเชื้อโรคเหล่านี้บางทียังไม่แสดงตัว ต้องมีการตรวจสอบคัดกรองกันต่อไป ไม่งั้นสถานการณ์โรคโควิด-19 อาจกลับมาอีกครั้งเหมือนหลายประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ภาพจากอีจัน
ส่วนสถานประกอบการต่างๆ ที่ขอให้กลับเปิดเหมือนในสถานการณ์ปกตินั้น ตนก็เห็นใจ แต่ท่านก็ต้องมีมาตรการที่เหมาะสมเช่นเดียวกันกับมาตรการของรัฐ "มันยังปล่อย 100% ไม่ได้หรอก โอกาสมันยังมีอยู่"
เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวในประเทศอาจทำได้ก่อน ขณะที่ต่างประเทศเข้ามาต้องดูตามความเหมาะสมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนการพิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังพิจารณาอยู่เพราะมันจำเป็น เพราะสิ่งที่ปลอดภัยอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ถึงอย่างไรจะพยายามผ่อนคลายให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ต้องการใช้กฎหมายกดดันใคร และปฏิเสธใช่เรื่องการเมือง พร้อมถามว่าเหตุใดกลุ่มต่างๆถึงต้องออกมาเคลื่อนไหวช่วงนี้
ถึงกระแสข่าวที่ปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องรัฐบาลกำหนดวันหยุดชดเชยสงกรานต์ยาวติดกัน 8 วัน ว่า…
“ในเรื่องของการบิดเบือน การให้ข่าวที่มันไม่ใช่สาระสำคัญ อย่างเช่นการปล่อยข่าวว่ารัฐบาลอนุมัติแล้วให้มีการหยุดราชการ 8 วันติดต่อกัน แบบนี้มันเป็นไปได้ไหม ผมพูดหรือยัง รัฐบาลกำหนดหรือยัง ถ้ายังแล้วไปเผยแพร่มันไม่ถูก ทำให้เสียหาย ถ้าไม่ได้หยุดตามนี้ท้ายที่สุดก็กลับมาเล่นงานนายกฯ เล่นงาน ครม. ขอร้องสื่อมวลชน สื่อสำนักพิมพ์ บรรณาธิการ ขอให้เสนอข่าวดีๆ ข่าวความก้าวหน้ายึดพื้นที่ข่าวดีๆ ให้หน่อย ไม่ใช่เอาแต่ข่าวความขัดแย้ง ข่าวที่มันมีผลกระทบต่อเสถียรภาพ อย่าเอาข่าวที่เป็นคำบอกคำอ้างแหล่งข่าวรัฐบาล” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ การหยุดชดเชยนั้น นายกรัฐมนตรี เผยว่า อาจแบ่งเป็น 3 วาระ เช่น หยุดเสาร์อาทิตย์ และวันอังคารก็จะไปเติมให้หยุดในวันจันทร์เพิ่มขึ้นอีกวัน ซึ่งจะเหลือหยุดชดเชยอีก 2 วัน ก็จะไปหาวาระที่เหมาะสมต่อไป