โจ๋เลือดร้อน รุมทำร้ายอริดับ ก่อนหนีไปขายอาหารนาน 15 ปี

ยังไงก็หนีกฎหมายและกรรมไม่รอด! กองปราบบุกรวบ โจ๋เลือดร้อน รุมทำร้ายอริจนตาย ก่อนหนีคดีไปขายอาหารนาน 15 ปี สุดท้ายไม่รอด

ทำผิดแล้วคิดจะหนี หนียังไงก็หนีไม่รอด แม้จะมีเวลาอยู่กับสุขได้ 15 ปี แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นกฎแห่งกรรมและกฎหมาย

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2563 กองบังคับการปราบปราม นำทีมเข้าจับกุม นายเอกชัย (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 1983/2548 คดี ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ถูกจับกุมได้ที่ ริมถนน บ้านปากอาจ ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

ภาพจากอีจัน

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2548 นายเอกชัย (ผู้ต้องหา) กับกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นเจ้าถิ่นกลับจากเที่ยวผับดังย่านปทุมธานี ระหว่างเดินทางกลับได้พบนายรอฟีกีน (สงวนนามสกุล) ผู้ตายซึ่งยืนอยู่ที่หน้าร้านขายและได้มองกลับทางกลุ่มผู้ต้องหา ผู้ต้องหาและพวกจึงคิดว่าเป็นคู่อริเก่า จึงไม่พอใจและวิ่งไล่ทำร้ายผู้ตาย จนผู้ตายเสียหลักล้มลงและถูกรุมทำร้ายทั้งของแข็ง ของมีคมจนถึงแก่ความตาย หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาพร้อมพวกได้หลบหนีไป ญาติผู้ตายจึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ต้องหา

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ต่อมาศาลจังหวัดธัญบุรีได้อนุมัติหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 1983/2548 ลงวันที่ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2548 กลุ่มผู้ก่อเหตุถูกำตรวจจับกุมได้ทั้งหมด เหลือเพียงนายเอกชัย ที่หลบหนี จนกระทั่ง วันที่ 10 มิ.ย.2563 ตำรวจ กก.2 บก.ป. สืบสวนทราบว่านายเอกชัย ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาประกอบอาชีพค้าขายอาหาร อยู่บริเวณ ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จึงวางแผนและเข้าทำการจับกุมตัวได้ในที่สุด ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ อ้างว่าอยู่ในที่เกิดเหตุแต่ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ลงมือ จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ภ.จ.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป