แอป ไทยชนะ เข้าถึงอะไรบ้างในมือถือผู้ติดตั้งบ้าง?

รัฐบาลประกาศเปิดตัวไทยชนะเป็น App บนมือถือแล้ว แล้วแอพนี้จะเข้าถึงอะไรในมือถือของผู้ที่ติดตั้งบ้าง มาดูกัน

นายปรเมศวร์ มินศิริ ผู้บริหารเว็บไซต์กระปุก ได้ออกมาโพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับ แอป ไทยชนะ ว่า จะเข้าถึงอะไรในมือถือของผู้ที่ติดตั้งบ้าง โดยได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวชื่อ ปรเมศวร์ มินศิริ โดยได้ระบุว่า การติดตั้งแอปนี้จะอนุญาติให้สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในเครื่องที่จติดตั้ง เช่น ดึงตำแหน่งโทรศัพท์ รูปภาพ ไฟล์ และวิดิโอ โดยได้ระบุว่า

ภาพจากอีจัน
(กรุง)ไทยชนะ รัฐบาลประกาศเปิดตัวไทยชนะเป็น App บนมือถือแล้ว โดยระบุว่าเป็น App ในแอคเคาท์ของธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นธนาคารของรัฐบาล ตอนนี้มีให้โหลดแล้วบนมือถือแอนดรอยด์ จากข่าวคือจะมีระบบเช็ค OTP มือถือแล้วทำให้ระบุตัวตนได้จริงๆ ไม่สามารถปลอมเบอร์มือถือได้แบบช่วงสิบวันที่ผ่านมา ลองกดดูในหน้านี้ตรง Permissions และ View details ได้นะครับ https://play.google.com/store/apps/details…
ภาพจากอีจัน
แอพนี้จะเข้าถึงอะไรในมือถือของผู้ที่ติดตั้งบ้าง 1. สามารถเข้าถึงตำแหน่งของโทรศัพท์ (Location) ถ้าเจ้าของไม่เปิด GPS ก็จะระบุได้คร่าวๆจากโครงข่ายผู้ให้บริการมือถือ แต่ถ้ามือถือนั้นเปิด GPS ก็จะระบุตำแหน่งเป๊ะๆได้เลยจากพิกัดดาวเทียม 2. สามารถเข้าถึงไฟล์รูปภาพ มีเดีย(วิดีโอ) และไฟล์ต่างๆได้ ซึ่งก็เป็นที่น่าสงสัยว่าถ้าจะแก้ปัญหาสองอย่างนี้ มีความจำเป็นจะต้องขอเข้าถึงตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือรวมถึงการเข้าถึงรูป,วิดีโอและไฟล์ของผู้ใช้หรือไม่??? ส่วนเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลหรือ Privacy นี่ หลายคนอาจมองว่า ปกติเราก็ให้แอปต่างๆ เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเราได้ตั้งเยอะแยะ เช่น Facebook, Google ฯลฯ คำตอบคือ เพราะเราเชื่อมั่นในเอกชนขนาดใหญ่เหล่านั้น โดยเฉพาะที่มาจากต่างประเทศเช่น อเมริกา เนื่องจากกฎหมายที่นั่นเขาเข้มงวดมากๆ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลถ้าเอกชนพวกนี้ "พลาด" ขึ้นมาแม้แต่นิดเดียว เขาจะถูกฟ้องร้องกันจนอ่วม แถมหุ้นตกมหาศาลแบบที่ Facebook เองก็เคยโดนมาในกรณี Facebook–Cambridge Analytica data breach ค่าปรับว่าเยอะแล้วแต่ราคาหุ้น Facebook ช่วงนั้นตกลงไป 24% นี่เป็นเงินมากถึง $134 พันล้านเหรียญ!
ภาพจากอีจัน
ต่างจากเมืองไทยที่ตอนนี้ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องมีผลบังคับใช้วันนี้ ได้รับการขยายยกเว้นไปอีกหนึ่งปีเกือบหมด ทำให้ขาดมาตรการทางกฎหมายที่จะคุ้มครองสิทธิของประชาชนในเรื่องนี้ การติดตั้งแอพจึงควรเป็นทางเลือก ว่าผู้ใช้จะยอมสละข้อมูลส่วนตัวให้กับผู้ให้บริการรายนั้นหรือไม่ ผู้ให้บริการมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ถ้าเป็นภาคบังคับหรือกึ่งบังคับ ควรจะพิจารณาให้รอบคอบว่า มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่จะต้องดึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆจากประชาชนไป เพื่อแลกกับมาตรการป้องกันโรคระบาด ที่แทบจะไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศนอกสถานกักกันคนที่เข้ามาจากต่างประเทศเป็นเวลาราวหนึ่งเดือนแล้ว มีทางเลือกที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้น้อยกว่านั้นแต่ยังมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่ด้วยนะครับ เพื่อความสะดวก ผู้ที่ติดตั้งแอพนี้ควรทราบข้อมูลนี้ด้วยว่า นี่คือการยินยอมให้รัฐบาลเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้ของท่านด้วยนะครับ Embet link