ตร. รวบ 1 ผตห.ชิงทรัพย์หน้าแบงก์เชียงแสน สภาพไร้ลมหายใจ

สลด! รวบผู้ต้องหารายสุดท้าย เหตุชิงทรัพย์หน้าแบงก์กรุงเทพ สาขาเชียงแสน ในสภาพไร้ลมหายใจ ตร.คาดหวังปลิดชีพหนีผิด หลังติดต่อขอมอบตัวแต่ไม่มา เร่งตรวจสวบหลักฐานหาสาเหตุต่อไป

หลังเกิดเหตุอุกอาจ 2 คนร้ายควงปืนชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาเชียงแสน จ.เชียงราย กวาดเงินไปกว่า 1 ล้านบาท ก่อนซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนี ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงรายได้แล้วจำนวน 1ราย และเร่งล่าผู้ต้องหาอีก 1 ราย มารับผิด

ภาพจากอีจัน
ล่าสุดวันนี้ 21 พ.ค. 2563 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าหลังได้รับรายงานจาก ผบก.ภ.จ.พะเยา ว่า พบผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลืออีกหนึ่งราย คือ นายชื่นใจ๋ (สงวนนามสกุล) ซึ่งทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ เสียชีวิตภายในป่า พื้นที่ จ.พะเยา โดยผู้ต้องหาได้ผูกคอตาย
ภาพจากอีจัน
จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น พบว่าโดยก่อนหน้านี้ในวันที่ 20 พ.ค.2563ผู้ต้องหาคือนายชื่นใจ๋ ก้อนคำ ได้ติดต่อประสานเพื่อขอมอบตัวที่ สภ.ภูกามยาว อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยาแต่ไม่ได้มามอบตัวตามที่ประสานไว้จนมาพบศพผูกคอตายหนีความผิดโดยจะนำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลพะเยาเพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรการเสียชีวิตอีกครั้ง
ภาพจากอีจัน
จากการเปิดเผยของตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพะเยา ว่าได้ติดตามผู้ต้องหารายนี้มา 3 วันกระทั่ง มาผูกคอปลิดชีพหนีความผิดในคอกวัวในตอนเช้านี้ หลังจากนั้นทางตำรวจชุดสืบสวนก็ได้ทำการเข้าไปตรวจค้นบ้านของพ่อและพี่ชาย เพื่อหาทรัพย์สินและของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ
ภาพจากอีจัน
ด้านนายทองอินทร์ ก้อนคำอายุ 58 ปี (พี่ชายผู้ต้องหา) กล่าวว่า บ้านติดตามหาน้องชายหลังก่อเหตุมาหลายวันแล้ว แต่ไม่เจอ และได้เจอน้องชายได้ใช้เชือกแขวนคอตายในคอกวัวของตนเองในตอนเช้านี้หลังจากที่เอาหญ้าและน้ำไปให้วัวกิน และได้พบว่าน้องชายได้ใช้เชือกไนลอนมัดคอตัวเอง ทั้งนี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและแพทย์ อยู่ระหว่าง ตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุและจะส่งศพไปทำการชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิต ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป