ครูชี้เรียนออนไลน์ กำลังสร้างความลำบากให้ผู้ปกครอง

ครูไม่ทน รีบเข้าไปชี้แจงเปลี่ยนความคิด หลังเห็นผู้ปกครองจูงมือลูกหาซื้อมือถือ ไปเรียนออนไลน์ ชี้ไม่มีไม่ต้องซื้อ ไม่มีก็รอเรียนปกติ นำเงินไปใช้ในสิ่งที่จำเป็นดีกว่า

คนเป็นพ่อเป็นแม่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกๆ ได้เรียนให้ทันเพื่อน
หลังจากที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจ และหน่วยงานต่างๆ ต้องปิดและถูกเลื่อนออกไป เพื่อเลี่ยงการรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก หวั่นเกิดการแพร่ระบาด เช่นเดียวกับการโรงเรียน และสถาบันการศึกษาที่ต้องเลื่อนเปิดเทอม ออกไปเป็นวันที่ 1 ก.ค. 63 และปรับการเรียนการสอนย่นเวลาปิดเทอม ยืดเวลาเรียนให้มากขึ้น พร้อมกับนำหลักสูตรการเรียนออนไลน์ปรับใช้ระหว่างที่นักเรียนรอเปิดเทอม
แต่เหมือนว่าการเรียนออนไลน์จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับคนที่ไม่มีอุปกรณ์ เช่นมือถือ,โทรทัศน์ ,อินเทอร์เน็ต แม้ทางกระทรวงศึกษาธิการจะออกมาบอกว่า หากใครที่ไม่พร้อมก็รอให้ไปเรียนจริงจังในวันเปิดเทอมก็ได้ แต่สำหรับเด็กๆ การไม่ได้เรียนไปพร้อมเพื่อน หรือเพื่อนเรียนไปก่อนแล้ว เป็นเรื่องใหญ่และแน่นอนพวกเขาต้องมีความกังวลกลัวเรียนไม่ทันเพื่อน คนที่ไม่มีก็ต้องดิ้นรนหาเพื่อให้ได้เรียนเหมือนเพื่อนๆ แต่นั้นไม่ใช่ทางออกเพราะเรากำลังตกเป็นเหยื่อ?

ภาพจากอีจัน
ล่าสุดวานนี้ 19 พ.ค. 2563 เฟซบุ๊กชื่อ กฤษดา เพื่อนอาสาฯ ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ โพสต์ภาพและตุการณ์หลังที่ตนไปเจอผู้ปกครองกำลังจูงมือลูกชายเข้าไปซื้อมือถือ เพื่อนำไปเรียนออนไลน์กับเพื่อนในร้านขายมือถือ ตนจึงเข้าไปอธิบายถึงความถูกต้องเพื่อให้เข้าใจว่าการเรียนออนไลน์เป็นการทดลองเรียนเท่านั้น การเรียนออนไลน์มีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ก็ได้ พร้อมให้ผู้ปกครองเก็บเงินไว้ใช้อย่างอื่นแทน
ภาพจากอีจัน
โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า #เรากำลังเป็นเหยื่อ ผมยืนเลือกซื้อของที่เซเว่นฯ เห็นผู้ปกครองกับเด็กคนหนึ่งเดินมาที่ บูธขายโทรศัพท์ ถามพนักงานว่ามีเครื่องราคาไม่เกิน 3,000 ไหม จะให้ลูกไว้เรียนออนไลน์ ผมยืนฟังผู้ปกครองกับพนักงานพูดคุยกันสักพัก จึงเดินไปชำระสินค้าแล้วเดินออกมาที่รถ ผมยืนคิดอยู่พักใหญ่ตาก็มองผ่านกระจกดูพนักงานกับผู้ปกครองตกลงกันอยู่ ผมเลยตัดสินใจเข้าไปอีกครั้ง เดินไปถามผู้ปกครองว่าเด็กเรียนอยู่ที่ไหน ผมแนะนำตัวว่าเป็นครู แล้วอธิบายว่าการเรียนออนไลน์เป็นแค่การทดลองในเดือนมิถุนายน วันที่ 1 ก.ค.ก็เปิดเรียนปกติ เรียนจนครบหลักสูตร การเรียนออนไลน์มีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ก็ได้ หรือหากไม่มีอะไรเลยก็รอเรียนปกติ ผู้ปกครองคนนั้นพยักหน้าเข้าใจ ผมหันไปบอกเด็กว่า ให้พ่อเอาเงิน 3,000 ไปใช้ทำอย่างอื่นดีกว่าไหม เด็กพยักหน้า …ครับครู ผู้ปกครองจึงจูงมือลูกออกจากร้าน โดยมีพนักงานมองผมแบบเคืองๆนิดหนึ่ง เรากำลังตกเป็นเหยื่อ เหยื่อของความไม่รู้ ศธ. เขต โรงเรียน ผอ. ครู ผู้ปกครองและเด็ก เรากำลังเป็นเหยื่อ โดยมีเด็กได้ผลประโยชน์แอบแฝง แค่เดือนมิถุนาเดือนเดียว ผู้ปกครองต้องลงทุนในสิ่งที่ตัวเองจะได้รับอยู่แล้ว คิดดูในเซเว่น เครื่อง 3,000 จริงๆแล้วมันพ่วงค่าเนตไปอีก 12 เดือนๆละ 4-500 บาท ถามว่ามากไหม ผมตอบเลยว่า "มาก" ไหนจะค่าซ่อมค่าอะไรอีกจิปาถะ มันคุ้มแล้วหรือกับการอดทนอีกแค่เดือนเดียว ดีกว่าจะมารับผิดชอบไปอีก 12 เดือน เรากำลังเป็นเหยื่อ ตราบใดที่นโยบายไม่มีความชัดเจนให้ผู้ปกครอง เราจะกลายเป็นแพะรับบาปในอนาคต หากท่านใดเห็นด้วยโปรดแชร์ให้ผู้ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไป


หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปต่างมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและกดแชร์ออกไปจำนวนมาก เพราะเห็นด้วยกับครู เพราะสำหรับคนที่มีอุปกรณ์อยู่แล้วไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับคนที่ไม่มี 3,000 บาท มันมากมายและจำเป็นในการใช้อีกหลายอย่าง
อดทนอีกนิดนะเด็กๆ เปิดเทอมเราค่อยมาจัดเต็ม ตอนนี้ทบทวนหนังสือและเเบบฝึกหัดพลางๆไปก่อน อย่ากังวลเลยนะ