ร้องเรียนอีจัน! สั่งหน้ากากอนามัยสินค้าจากญี่ปุ่น ผ่านร้านค้าในออนไลน์ แต่ถูกโกงจ่ายเงินแล้วไม่ได้ของ
วันนี้(19 พ.ค. 63) อีจันได้รับเรื่องร้องเรียนจาก คุณ ม. ผู้เสียหายที่ถูกร้านขายสินค้าจากญี่ปุ่น ในอินสตาแกรม โกงเงินสั่งซื้อสินค้า โดยคุณ ม. เล่าว่า เมื่อเดือน ก.พ. 63 ที่ผ่านมา ช่วงนั้นโรคโควิด-19 ยังไม่ระบาดเยอะในประเทศไทย แต่ยังมีปัญหาฝุ่น pm2.5 ซึ่งตัวเธออยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบทางมลพิษมากๆจังหวัดหนึ่ง จึงหาซื้อหน้ากากอนามัยแบบที่มีความละเอียดมากเพื่อป้องกันฝุ่น จนมาเจอกับร้านขายสินค้าจากญี่ปุ่นร้านหนึ่งในอินสตาแกรม เป็นร้านแบบพรีออเดอร์ คือสั่งจองแล้วต้องรอของนำเข้าประเทศ คุณ ม. ได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัยไป ประมาณ 100 ชิ้น กับ มาย ที่เป็นแม่ค้า ซึ่งก็ได้รับของจริงตามที่สั่ง
ต่อมาได้สั่งซื้ออีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีความล่าช้ามากกว่า โดย มาย บอกว่าสินค้าติดอยู่ยังผ่านด่านมาไม่ได้ ด้วยความที่ตอนนั้นประเทศไทยก็มีความเข้มงวดในการนำเข้าสินค้า จากปัญหาโควิด-19 คุณ ม. จึงไม่ได้คิดอะไรมากก็รอต่อไป กระทั่ง มาย บอกว่าจะโอนเงินคืนให้กับลูกค้า เนื่องจากสินค้ายังไม่เข้า และ คุณ ม. ก็ได้รับเงินคืนมาจริง หลายวันถัดมา มาย บอกว่าสินค้าเข้ามาแล้ว ถ้าลูกค้ายังจะรับให้โอนเงินเข้าบัญชีดีลเลอร์ได้เลย ซึ่งคุณ ม. คิดว่าคงจะมีของจริงและไม่น่าจะโกง จึงยืนยันรับสินค้าและได้โอนเงินไปตามบัญชีที่ มาย ให้มา และก็รอรับของตามปกติ แต่ปรากฏว่าหลายวันแล้วหน้ากากอนามัยก็ยังไม่ถึง ติดตามกับ มาย ก็ไม่ได้ จนมั่นใจแล้วว่าถูกโกงแน่ๆ เพราะร้านในอินสตาแกรมก็ถูกลบรูปภาพจนหมด แต่แอคเค้าท์ยังเปิดอยู่ จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ในข้อหาฉ้อโกง กับชื่อเจ้าของบัญชีที่โอนเงินไป เพราะเข้าใจว่าเป็นมาย แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าของชื่อไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลย แต่เป็นบัญชีธนาคารที่มายซื้อมาจากแก๊งขายบัญชี คุณ ม. จึงตัดสินใจ จะจับโจรตัวจริงให้ได้ ลงมือตามล่าหาตัวมายเอง
คุณ ม. บอกว่า พยายามตามหาผู้เสียหายคนอื่นๆจนพบว่ามีหลายคนมาก แต่ละคนก็แจ้งความไว้ในหลายท้องที่ นอกจากนี้ยังพบว่าชื่อบัญชีที่ มาย ให้โอนเงินสั่งซื้อสินค้าไปมี 3 ชื่อ พบว่าทั้ง 3 ชื่อนั้นไม่ใช่ชื่อมาย แต่เป็นคนอื่นที่ถูกซื้อบัญชีมาเหมือนกัน แต่คุณ ม. ก็ไม่ลดละความพยายาม ตามหาจนเจอชื่อจริงๆของ มาย และยังได้ข้อมูลมาว่า มาย อาศัยอยู่ในกรุงเทพ ย่านลาดพร้าว ย่านวิภาวดี ย่านสุทธิสาร และก็มีประวัติฉ้อโกงอีกหลายเรื่องด้วย ทั้งหลอกขายโทรศัพท์มือถือให้กับนักเรียน นักศึกษา เมื่อต้นปี 63 มีการโกงเช่าซื่อกล้องดิจิทัลอีกด้วย คุณ ม. จึงรวบรวมข้อมูลที่หาได้ ไปให้กับตำรวจที่เคยแจ้งความไว้ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็บอกว่าจะมีการออกหมายเรียกมายมาเพื่อสอบปากคำ แต่ว่าผ่านมาเกือบเดือนคดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ คุณ ม. กังวลว่า มาย จะไปหลอกคนอื่นอีกเรื่อยๆ ซึ่งแบบนี้ถือว่าเป็นภัยต่อสังคม จึงร้องเรียนมาที่เพจอีจันให้ช่วยติดตามคดี ขอให้ตำรวจเร่งรัดตามจับตัวคนโกงคนนี้มาให้ได้ ไม่ให้ไปก่อเหตุแบบนี้ได้อีก อีกทั้งเรื่องของแก๊งขายบัญชีธนาคารผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆกับประชาชน จึงอยากขอให้หน่วยงานที่มีอำนาจ ช่วยเข้ามาดูคดีนี้ด้วย