ชาวจีนชื่นชม ความมีน้ำใจของคนไทย ตั้งตู้ปันสุข แบ่งปันอาหารให้กันและกัน

ดีใจ คนจีนชมไทย จิตใจดีตั้งตู้ปันสุข แบ่งปันของให้กันและกัน

เพจ อ้ายจง เพจของคนไทยที่อยู่ในประเทศจีน ได้โพสต์เล่ว่า ในโซเชียลของประเทศจีน มีการแชร์คลิป แชร์เรื่องราวของ ตู้ปันสุขในไทย ทั่ว Weibo ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.63
ซึ่งชาวจีนได้แสดงความคิดเห็นถึงการตั้งตู้ปันสุข การแบ่งปันของคนไทย ว่า
– ไทยเป็นประเทศเมืองพุทธ ผู้คนจิตใจดี ไม่ทำร้ายกัน
– แล้วเรื่องสุขลักษณะของอาหารที่เอาไปใส่ไว้ในตู้ ถ้าเกิดไม่โอเค ใครเป็นคนรับผิดชอบล่ะ?
– ประเทศจีนก็น่าจะมีแบบนี้บ้างนะ?
– ความจริงที่จีนก็เคยมีแบบนี้ แต่ทำไปสักพักก็จะมีพวกพ่อค้าแม่ค้ามาหาประโยชน์ตรงนี้ แล้วก็มีเคสที่ของหาย
– จริงๆในจีนก็มีนะ ช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นก็เหมือนจะมีเหมือนกัน แต่รู้สึกว่า ผ่านไปแค่สองวัน ตู้ก็หายไปเลย
– ที่จีน ประชากรเยอะ ทำแบบนี้ไม่ได้หรอก ไม่เพียงพอสำหรับจำนวนคน

ทางเพจ เล่าต่อว่า
ความคิดเห็นนี้ มีคนตอบกลับเยอะมาก โดยส่วนใหญ่ตอบว่า
“ถ้าคนคิดจะทำดี ก็คงไม่เอาของที่ไม่มีคุณภาพไปวางหรอก” , “อาหารที่เอาไปวาง เป็นอาหารสำเร็จ ไม่ใช่แบบอาหารสดทำเอง”
– เป็นไอเดียที่ดีมากเลยนะ ทางนี้ก็อยากจะเอาอาหารที่เวลาที่บ้านทำกินกัน แล้วกินไม่หมด ไปให้เพื่อนบ้านเหมือนกัน แต่กลัวว่าเขาจะไม่ชอบ
– เคยไปทำงานที่กรุงเทพมหานครประมาณ 2 ปี รู้สึกได้ว่าคนที่นั่นเป็นคนจิตใจดีนะ ชอบช่วยเหลือกัน
– รู้สึกประทับใจมาก
– อ่านเรื่องราวนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นใจจริงๆ
– ประเทศไทย ยังคงเป็นประเทศที่สวยงามนะ ขอให้พวกเขาปลอดภัยและผ่านพ้นวิกฤตินี้
– คนไทยก็ยังคงเป็นผู้ที่มีจิตใจดีเช่นกัน
– ดีนะ แนวคิดนี้ แต่ว่าช่วงนี้ที่ไทยอากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆเลยนี่ ถ้าทำตู้ที่สามารถกันแมลง กันมดได้ จะดีมากนะ
– มีทุเรียนเอาไปวางไว้ในตู้ เพื่อแจกฟรีด้วยหรอ ราคาน่าจะแพงทีเดียวนะ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
นอกจากนี้ ทางเพจ ยังเล่าถึงการแบ่งปันอาหารของประเทศจีน ไว้ว่า หากย้อนไปเมื่อปี 2016 บางเมืองของจีน เริ่มทำธนาคารอาหารเพื่อผู้ยากไร้ โดยดำเนินการโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร "Green Food Bank" เครือข่ายของ The Global FoodBanking Network ลักษณะของธนาคารอาหารแห่งนี้คือมีตู้แช่อาหารตั้งเอาไว้ ใครมีอาหารที่รับประทานไม่หมด หรือต้องการบริจาค สามารถนำมาแช่ไว้ที่ตู้แช่แห่งนี้ได้ เพื่อให้ผู้ยากไร้ หรือผู้ที่มีปัญหาการเงิน มานำอาหารในตู้แช่นี้ไปรับประทานได้ โดยมีพนักงานประจำ จำนวน 5 คนและอาสาสมัครซึ่งประกอบไปด้วยคุณลุงคุณป้าวัยเกษียณและคุณป้าแม่บ้านทั้งหลายที่พอมีเวลา จำนวน 280 คน ต่อเดือน มาร่วมช่วยกันดูแลที่แห่งนี้ เพื่อให้มีระเบียบเรียบร้อยและตรวจเช็คอาหารก่อนจะเข้าตู้แช่ โมเดลนี้ เกิดขึ้นได้โดยความร่วมมือของ ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายของในละแวกนั้น ที่ร่วมบริจาคอาหาร โดยจะมีวันหมดอายุระบุไว้บนกล่องอาหารอย่างชัดเจน ซึ่งตามปกติแล้ว หากอาหารใกล้วันหมดอายุ จะนำออกมาลดราคา แต่ได้นำส่วนหนึ่งมาบริจาค มาแช่ไว้ในตู้แช่ของธนาคารแห่งนี้แทน จำได้ว่าในตอนนั้น "ธนาคารอาหาร ณ เซี่ยงไฮ้" ถือเป็นกระแสสังคมที่ผู้คนให้ความสนใจมาก ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้งในเชิงบวกและลบ โดยส่วนใหญ่กังวลว่า จะมั่นใจได้อย่างไรว่าอาหารที่แช่นั้นสะอาดและปลอดภัย บ้างก็แสดงความคิดเห็นพร้อมข้อเสนอแนะว่า "ควรจะมีการขอดูบัตรประชาชนทุกครั้งทั้งผู้ที่นำอาหารมาแช่และผู้ที่มารับ รวมทั้งควรระบุชื่อของผู้ที่นำอาหารมาแช่ไว้บนกล่องอาหารทุกครั้ง" นอกจากนี้ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยต่างแสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ได้ทั้งช่วยเหลือผู้ยากไร้ และลดปริมาณขยะอาหารภายในเมืองอีกด้วย ทั้งนี้ ธนาคารอาหารถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่กำลังดำเนินการในเมืองต่างๆทั่วโลก มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยส่วนใหญ่จะคำนึงถึงความปลอดภัยของอาหารเป็นหลัก
ภาพจากอีจัน


จันดีใจ ที่ไทยถูกชื่นชมในเรื่องของการมีน้ำใจของคนไทย ในเรื่องการตั้งตู้ปันสุข เพื่อแบ่งปันอาหาร ในช่วงที่หลายคนเจอวิกฤติ ใช้ชีวิตยากลำบาก
แต่จะให้ดีมากกว่านี้ถ้า ผู้รับ มีสำนึกในการแบ่งปัน และเผื่อแพร่ซึ่งกันและกัน ไม่กอบโกยสิ่งที่ผู้ให้ตั้งใจแบ่งปันเพียงลำพังนึกถึงคนข้างหลัง และคนที่ลำบากกว่า