ส่งกล่องกำลังใจ ไปให้ถึงที่ โดยทีมข่าวอีจันภูมิภาค

ทีมข่าวอีจันภูมิภาค ร่วมด้วยช่วยกัน ส่งกล่องกำลังใจให้ครอบครัวผู้ยากลำบากในช่วงวิกฤตโควิด-19

กล่องกำลังใจจากทีมข่าวอีจันภูมิภาค ทยอยส่งให้ถึงบ้านผู้ที่ลำบากแล้วววว

ขอบคุณพี่ๆทีมข่าวอีจันภูมิภาค ที่ช่วยส่งต่อกล่องกำลังใจจากกรุงเทพไปให้ถึงมือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในพื้นที่ห่างไกลของแต่ละจังหวัดด้วยนะคะ

“จังหวัดอยุธยา” มีพี่สุรัตน์ ชัยกุลเทวินทร ทีมข่าวอีจันจังหวัดอยุธยา ได้รับกล่องกำลังใจจากเพจอีจัน จำนวน 5 กล่อง นำไปมอบความสุขให้ลูกเพจอีจันที่มีฐานะทางบ้านลำบาก ครอบครัวที่มีผู้พิการไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เพื่อแบ่งปันและให้รอดพ้น ในช่วงวิกฤตโควิด-19 โดยกล่อง กำลังใจทั้ง 5 กล่อง พี่สุรัตน์ได้จัดสรรให้กับ 5 ครอบครัวดังนี้

1 .นางศิเรียม แก้วเรือง อายุ 55 ปี ชาว ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่กับสามี 2 คน ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ซีกขวา เป็นชาวมุสลิม ไม่มีลูก ต้องคอยดูแลสามี เมื่อเอากล่องกำลังใจไปให้ถึงที่บ้าน นางศิเรียมดีใจมาก และขอบคุณทีมงานเพจอีจันที่ช่วยต่อลมหายใจให้กับครอบครัว

2. นางแดง ทองจันทร์ อายุ 65 ปี ชาว ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่กับสามี 2 คน ป่วยเป็นอัมพาตติดเตียงหลายปี ไม่มีลูก เมื่อกล่องกำลังใจไปถึง นางแดง บอกว่า รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของคนไทยที่ไม่ทอดทิ้งกัน ทั้งที่ตนเองก็ไม่ได้มีโทรศัพท์และโลกโซเชียล แต่มีทีมงานอีจันจังหวัดอยุธยาได้เดินทางมามอบให้โดยที่ตนก็ไม่ทราบมาก่อน พร้อมทั้งขอขอบคุณทุกๆคน

3. นางพะเยา คงเสมา อายุ 63 ปี ชาว ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้พิการขาขาดทั้ง 2 ข้าง อยู่กับหลาน 2 คน ไม่มีรายได้ นางพะเยา กล่าวขอบคุณเพจอีจันที่ส่งกล่องกำลังใจมาให้ ตนเองดีใจมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากเพจอีจัน สิ่งของที่ได้มานั้นมีประโยชน์กับครอบครัว ใช้ต่อลมหายใจได้อีกหลายอาทิตย์

4. นางสร้อยมาลี อ้นวงศา อายุ 64 ปี ชาว ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ดูแลสามีป่วยติดเตียงมา 20 ปี อยู่กับหลานชาย 1 คน ปกติรับจ้างล้างจานที่ร้านขายหอยทอดใกล้บ้าน เพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ขาดรายได้ หลังกล่องกำลังใจไปถึง นางสร้อยมาลีกล่าวว่า รู้สึกงง อยู่ดีๆก็มีทีมงานเพจอีจันยกกล่องกำลังใจมามอบให้ที่บ้าน พอเปิดออกมาดูก็พบว่าเป็นสิ่งของครัวเรือนหลายอย่าง จึงขออวยพรให้ผู้ที่ใจบุญทุกคน จงมีแต่ความสุขสุขภาพร่างกายแข็งแรง อายุยืน

5. นางไพลวัลย์ สันติกุล อายุ 74 ปี ชาว ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ดูแลสามีอายุ 90 ปี ที่ป่วยติดเตียง ลูกๆ ว่างงานช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ไม่มีรายได้ดูแลครอบครัว นางไพลวัลย์ ฝากขอบคุณเพจอีจันและผู้สนับสนุนสิ่งของมามอบให้กับผู้ที่ยากไร้ ตนเองนึกไม่ถึงว่าจะมีเพจอีจันนำกล่องกำลังใจมาให้ถึงบ้าน ทำให้ตนเองรู้ว่าคนไทยไม่ทอดทิ้งกันและช่วยเหลือกัน กราบขอบพระคุณทุกคนเป็นอย่างสูง

“จังหวัดลำปาง” มีพี่นา ทีมข่าวอีจันภูมิภาคจังหวัดลำปาง เป็นผู้ส่งมอบกล่องกำลังใจ 5 กล่อง โดยพี่นาได้จัดสรรให้กับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล และมีความยากลำบาก ดังนี้

1. ครอบครัวของ นายทับ หาวัง เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ดูแลลูกเล็ก 3 คน โดยนายทับ มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ในช่วงที่ผ่านมาแทบไม่มีงานเพราะทุกที่หยุดหมด และเพิ่งมีงานรับจ้างทาสี งานก่อสร้างมาบ้าง และด้วยที่เป็นคนต่างจังหวัดมาเช่าบ้านอยู่เดือนละ 2,500 บาท อาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน เช้ามาก็ต้องออกหางานทำ ลูกผู้หญิงซึ่งมีอายุสองขวบกว่าก็ต้องฝากคนในหมู่บ้านเลี้ยง จ่ายค่าจ้างวันละ 100 บาท หากวันไหนไม่มีคนเลี้ยงก็ไม่ได้ทำงาน แต่ละเดือนแทบไม่มีเงินซื้อของใช้เพราะต้องหมดไปกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับของช่วยเหลือจากรัฐเพราะไม่มีชื่ออยู่ในชุมชน และตนเองก็ไม่เคยออกไปเอาของเพราะต้องไปหางานทำ ดีใจมากที่ทีมงานนำของไปมอบให้ นายทับถึงกับยกมือไหว้และร้องให้ด้วยความดีใจ ส่วนลูกๆสองคนที่วิ่งเล่นในบ้านก็ดูเหมือนจะดีใจไม่แพ้พ่อ ต่างวิ่งมากอดกล่องกำลังใจและช่วยกันแกะกล่องดูว่ามีของอะไรบ้าง ลูกชายตัวเล็กรีบหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาแกะและกินทันทีบอกว่าชอบ พี่นา ทีมข่าวของเราบอกว่า ภาพนั้นทำเอาทีมงานดีใจตามไปด้วย

2. ครอบครัวของ คุณยายบัวคำ ยะถา เลี้ยงดูหลานสองคน ก่อนหน้านั้นคุณยายบัวคำเป็นผู้ช่วยกุ๊กอยู่ร้านอาหาร พอมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ร้านอาหาร คาราโอเกะต่างๆที่เคยทำงานอยู่ปิดหมด ตนเองจึงต้องหยุดงาน รายได้ก็ไม่มี และด้วยบ้านอยู่ในเขตเทศบาล ต.บ่อแฮ้ว แต่อยู่สุดท้ายเป็นเขตติดต่อระหว่าง ต.บ่อแฮ้ว และเทศบาลนครลำปาง ทำให้ไม่เคยได้รับของแจกจากหน่วยงานของรัฐเลย ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าจะไปขอรับจากที่ไหน ดีใจมากที่มีคนขอกล่องกำลังใจให้และทีมงานได้นำลงไปมอบให้ถึงที่

3. ครอบครัวของ ยายเขียว ไชยสวนดอก อายุ 76 ปี เป็นผู้พิการทางสายตาหนึ่งข้าง ครอบครัวอยู่กัน 4 คน คือลูกที่พิการทางสายตาหนึ่งข้างและอีกข้างพร่ามัว รับจ้างทำดอกไม้ และดูแลหลานอีก 2 คน โดยตัวยายเขียวจะมีรายได้จากการนั่งขายหนังสือพิมพ์ที่ตลาดเก๊าจาวตอนเช้าทุกวัน แต่ละวันก็จะมีคนนำหนังสือพิมพ์มาให้มากสุดก็ประมาณ 70 เล่ม เล่มละ 1.5 บาท หากขายหมดก็จะได้เงินประมาณ 105 บาท หากขายไม่หมดก็ได้เงินตามจำนวนที่ขาย นอกจากนั้นก็จะได้เงินผู้สูงอายุ ผู้พิการ และบัตรสวัสดิการ แต่ละวันก็จะซื้อข้าวสารจ้าวมาวันละ 1 หุงได้ 3 วัน หากเป็นข้าวสารเหนียว 1 ลิตรก็นึ่งได้ 1 วันเท่านั้น สำหรับโครงการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากโควิด-19 จะได้ได้รับแจกข้างกล่อง เพียง 1 กล่องต่อครอบครัว ต่อ 1 วันเท่านั้น หลังได้รับกล่องกำลังใจยายเขียวและหลานๆดีใจมากๆ

4. ครอบครัวนี้ทางทีมงานต้องขอให้ประธาน อสม.ในชุมชนออกมารับบริเวณปากซอยและขนกล่องกำลังใจซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ฝ่าความมืดเข้าไปในชุมชน เนื่องจากถนนแคบและทางเข้าไปไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง จนไปถึงบ้านของ นางลดาพร สุขวัฒน์ ซึ่งเธอเป็นเสาหลักในการทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวที่มีกันอยู่ 5 คน ประกอบด้วย คุณแม่ ชื่อยายนิต สุขวัฒน์ อายุ 73 ปี ผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัวหลายโรคไม่สามารถทำงานได้ พ่อคุณ ชื่อตาประทีป อายุ 74 ปี พิการทางหู ทำงานไม่ได้ และลูกอีกสองคน ซึ่งหนึ่งคนไม่ปกติ นางลดาพร มีอาชีพรับจ้าง ช่วงที่ผ่านมาต้องหยุดงานเพราะไม่มีงานให้ทำ ทำให้ครอบครัวไม่มีรายได้ ขณะนี้รายได้มาจากเงินผู้สูงอายุและผู้พิการ ส่วนทางจังหวัดจัดโครงการแจกข้างกล่องให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ข้าวกล่องที่ได้รับแจกในขณะนี้ ก็ได้รับเพียง 1 กล่องต่อครอบครัว ต่อ 1 วันเท่านั้น ซึ่งก็จะให้แม่กิน ส่วนคนอื่นๆ ก็ต้องออกไปเอาของตามตู้ปันน้ำใจที่มีผู้ตั้งไว้ตามจุดต่างๆมาเลี้ยงครอบครัว เมื่อเห็นทางทีมงานนำของไปให้ถึงบ้าน นางลดาพรถึงกับน้ำตาซึมและขอบคุณเป็นอย่างมาก

5. ครอบครัวของ นางรัตนาพร กอนเชื้อ อาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน สามีเลี้ยงไก่อยู่กับบ้านและต้องคอยดูแลน้องที่พิการแขนสองข้างช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และลูกสาวที่ไม่สมประกอบ 1 คน และลูกสาวที่ต้องช่วยทำงานบ้านอีก1 คน โดยตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไปใครจ้างทำอะไรก็ไปหมด ไม่ว่าจะทำความสะอาดบ้าน หรือรับจ้างทั่วไป ส่วนรายได้อื่นก็มาจากเบี้ยผู้พิการสองคน บัตรสวัสดิการ และได้รับแจกข้างกล่องวันละ 1 กล่องต่อครอบครัวจากโครงการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

10 ครอบครัว 2 จังหวัด ที่ทีมข่าวของเราได้นำกล่องกำลังใจไปมอบให้นั้น ล้วนแต่เป็นครอบครัวที่ยากลำบากจริงๆในช่วงวิกฤตแบบนี้ จันเองก็ดีใจที่ได้ช่วยเหลือทุกๆครอบครัวให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะคะ ครอบครัวอีจันอยู่ข้างกันเสมอ และที่สำคัญ ขอขอบคุณทุกๆคนที่ได้ร่วมบริจาคมาในโครงการกล่องกำลังใจ และผู้ใหญ่ใจดีที่ส่งของมาสนับสนุนในเฟด 2 นี้ด้วยนะคะ ขอให้ทุกท่านพบเจอแต่ความสุข ความเจริญ สาธุๆๆๆ ^^