อีจันโพลล์ ผลโหวตเคอร์ฟิวสูสี ส่วนใหญ่เทคะแนน หยุดเคอร์ฟิว

ผลโพลล์ออกแล้ว ความคิดเห็นจากพี่น้องคนไทยส่วนใหญ่กับมาตรการเคอร์ฟิว “ไปต่อ หรือ พอแค่นี้ ดีนะ ?”

สถานการณ์โควิด-19 ในไทยก็เริ่มเบาลงแล้ว ดูได้จากยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่ที่ต่ำกว่า 10 ราย น้อยลงไปเรื่อยๆ มีลุ้นยอดติดเชื้อในไทยเป็น 0 อีกไม่นาน
ทำให้หลายคน เฝ้ารอการปลดล็อก เคอร์ฟิว ห้ามออกจากบ้านหลัง 22.00 – 04.00 น. เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและประกอบอาชีพในบางคน
ซึ่งเมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 จันได้ทำโพลล์ เพื่อสอบถามความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชนชาวไทย เกี่ยวกับ มาตรการเคอร์ฟิว ควรที่จะมีต่อไป หรือ หยุดเคอร์ฟิวไว้แค่นี้

ผลสำรวจออกมาแล้วค่ะ ความคิดเห็นส่วนใหญ่จากผู้โหวตทั้งหมด 1.2 แสน โหวต ลงเสียงข้างมากไปที่
หยุดเคอร์ฟิวไว้แค่นี้ ที่ 51 % ในขณะที่ความเห็นอีกฝั่งให้เคอร์ฟิวต่อมีถึง 49 %

ภาพจากอีจัน


โดยเสียงที่ โหวตให้หยุดเคอร์ฟิว ให้เหตุผลว่า

“เชื้อโรคไม่เลือกเวลาครับ แค่อย่าการ์ดหลุด และป้องกันตัวเอง มีวินัย ตามคำแนะนำแพทย์ ก็รอดแล้วครับ #แต่ถ้าล็อกดาวน์ให้ปิดทั้งปีก็มีติดครับ รอวัคซีน ก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร ดูแลตัวเองให้ดีก็พอครับ เข้าสังคมก็ระวังสักนิดก็ดีครับ”
หรือ “ขอให้ยกเลิกครับ คนทำงาน กะบ่าย กว่าจะเสร็จงาน กว่าจะเดินกลับถึงที่พักอีก ก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว และอีกอย่าง เชื้อโควิด มันจะติด ตอน 22:00- 4:00 เหรอครับ”
และ “น่าจะหยุดเคอร์ฟิวได้ละนะ เพราะ ไวรัสมันไม่ได้แพร่กระจายเฉพาะตอนกลางคืน เพียงแต่อย่าเพิ่งรับนักท่องเที่ยวจากตปท.เข้ามาเท่านั้นล่ะ เพราะทุกวันนี้คนไทยมีระเบียบใส่แมส พกเจล ขยันล้างมือ เว้นระยะห่างกันจนเป็นนิสัยไปแล้ว ตามห้างตามตลาดก็จัดระเบียบเหมือนเดิม” เป็นต้น

ส่วนผู้ที่สนับสนุนให้มีเคอร์ฟิว ต่อ ให้เหตุผลว่า
“อยากให้เคอร์ฟิวต่อ ไม่อยากเป็นเหมือน สหรัฐฯ ที่ชะล่าใจ จนตอนนี้ คนติดเชื้อเยอะ คนตายก็เยอะ เวลานั้น จะเดือดร้อนยิ่งกว่านี้ มีผลกระทบเหมือนกัน ตกงาน ขายของก็ไม่ดี แต่ลำบากแบบนี้ดีกว่า ลำบากจนออกบ้านเวลาไหนไม่ได้เลย ถึงเวลานั้น ประเทศไทยจะอยู่ในสภาพไหน”
หรือ “อย่ารีบกันนักเลยครับไม่มีคอกให้ล้อมวัวแล้วนะครับ”
และ “ต่อเลยค่ะ อย่างน้อยบ้านเมืองก็สงบขึ้น อุบัติเหตุลดลงได้มากแล้ว จะประมาทกับโรคนี้ยังไม่ได้ค่ะ เคอร์ฟิวต่ออีกค่ะ” เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจนี้เป็นเพียงการสำรวจความคิดเห็นจากทางลูกเพจอีจันเท่านั้น
ดุลยพินิจของการตัดสินใจขึ้นอยู่จากการตรวจสอบพฤติกรรมของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศว่า ควรหยุดเคอร์ฟิว หรือ ไปต่อ
แต่ไม่ว่าเคอร์ฟิวจะมีต่อหรือหยุดแค่นี้ พวกเราก็ไม่ควรที่จะประมาทนะคะ ก็อย่างที่หลายๆคนบอกแหละค่ะว่า เชื้อโรคมันไม่ได้เลือกเวลาได้ ยังไงเราก็ต้องรักตัวเอง ดูแลตัวเองให้ดี ไม่ไปในที่สุ่มเสี่ยงหรือหากเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆนะคะ