(4 พ.ค.63) กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุมนายศราวิน (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง จับได้ที่ ต.สร้อยทอง อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เเละจับกุม น.ส.ทิพวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง จับได้ที่ ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
ภาพจากอีจัน
การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณปลายปี 2561 นายศราวิน เเละ น.ส.ทิพวัลย์ สองสามีภรรยา ได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนให้ลงทุนในระบบได้ผลตอบแทนสูง เช่น หากลงทุน 1,000 บาท จะได้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ย 1,500 บาท เงินที่ลงทุนมานั้น ทางผู้ต้องหาได้นำไปลงทุนเล่นแชร์ทางเฟซบุ๊กกับแชร์แม่มณีอีกต่อหนึ่ง ได้ค่าตอบแทน 1,900 บาท ทั้งคู่จะได้ส่วนต่างอยู่ 400 บาท ต่อมาทางผู้เสียหายได้ลงเงินทุนไปจำนวน 100,000 บาท เดือนแรกได้เงินคืนมา 150,000 บาท เห็นว่าได้ผลตอบแทนตามที่ตกลงกัน จึงได้ชักชวนญาติพี่น้องมาลงทุนต่อรวมเงิน 1,100,000 บาท และยังไม่ได้ผลตอบแทน ผู้เสียหายพยายามทวงถามสามีภรรยาคู่นี้ แต่ก็ยังบ่ายเบี่ยงบอกยังรอทางเครือข่ายโอนเงินมา
ต่อมาผู้เสียหายเห็นในข่าวว่ามีการจับเครือข่ายแชร์แม่มณีฯได้ ความเสียหายหลายล้านบาท จึงคิดว่าตัวเองถูกหลอก ได้พยายามทวงเงินจากนายศราวิน และ น.ส.ทิพวัลย์ เรื่อยมา แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยง จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และศาลอนุมัติออกหมายจับ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
กระทั่งวันที่ 6 พ.ค.2563 ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป. สืบทราบว่านายศราวินและ น.ส.ทิพวัลย์หลบหนีมาทำงานที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จึงได้เข้าทำการสืบสวนและเข้าทำการจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเลน ดำเนินคดี
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าไม่ได้เป็นคนเอาเงินผู้เสียหายไป แต่ยอมรับว่านำเงินไปลงทุนต่ออีกทอดหนึ่ง ในขณะที่เท้าแชร์ถูกจับดำเนินคดี ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างฟ้องร้องขอคืนความเสียหายจากทรัพย์ที่ยึดมาได้ ซึ่งตนก็เดือดร้อนเหมือนกัน แต่พอถูกทวงถามหนักก็หลบหนีออกมาจากพื้นที่ จ.นครปฐม คาดว่าหลบหนีมาทำงานหาเงิน ถ้าได้เงินแล้วจะนำไปคืนให้ผู้เสียหายต่อไป
ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด