จับชาวกัมพูชา ลอบข้ามแดนมาตัดไม้ในเขต ขสป.ห้วยศาลา

เจ้าหน้าที่ ขสป.ห้วยศาลา รวบชายกัมพูชา ลอบข้ามแดนมาตัดไม้ตามออเดอร์นายทุน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) ประเทศไทยได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทำให้บริษัท ห้างร้าน โรงงาน ต้องปิดกิจการชั่วคราว แรงงานทั้งชาวไทย ลาว กัมพูชา ต้องถูกพักจ้าง ถูกเลิกจ้าง จำนวนมาก และต้องเดินทางกลับถิ่นกำเนิด แต่ด้วยต้องดิ้นรนเลี้ยงปากท้องตนเองและครอบครัว ทำให้แรงงานเหล่านั้น หันไปรับจ้างหาไม้ตามชนิดที่นายทุนต้องการ หรือแม้แต่หาเพื่อนำไปขายให้กับโรงงานไม้แปรรูป

ภาพจากอีจัน

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ได้ออกตรวจพื้นที่ ร่วมวางแผน ทั้งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ , หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า รวม 12 แห่ง ที่มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกัมพูชาและลาว ซึ่งมีหน่วยงานทหาร หน่วยงานความมั่นคง ร่วมอยู่ด้วย สืบเนื่องจาก การข่าวและผลการเดินลาดตระเวน พบแคมป์ที่พักจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าว เข้ามาโค่นต้นไม้ พร้อมทั้งแปรรูป นำเข้าและนำไม้ออกไป โดยใช้เวลาไม่เกิน 2 คืน จากร่องรอยที่พบ

ภาพจากอีจัน

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร จึงได้จัดหน่วยลาดตระเวน ดักซุ่ม มอบหมายให้ หัวหน้าหน่วยแต่ละพื้นที่ ลงพื้นที่ด้วยตนเอง เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 63 ชุดลาดตระเวน Smart Patrol เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ได้ออกเดินลาดตระเวนบริเวณป่าทางทิศใต้ บ้านแซรไปร ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ทับซ้อนเขตป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี “ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา” ท้องที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากชายแดนไทย – กัมพูชา ประมาณ 4 กิโลเมตร พบร่องรอยการใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ทั้งที่ไม่ได้มีการเปิดให้ใช้เส้นทางนี้แต่อย่างใด และพบร่องรอยการทำไม้ จึงได้วางแผนดักซุ่มอยู่ในพื้นที่ และในวันที่ 3 พ.ค. 63 เวลา 05.30 น. ขณะดักซุ่มได้พบผู้กระทำผิดทำไม้ 5 ราย และได้เข้าจับกุม สามารถจับกุมได้ 1 ราย ทราบชื่อ คือ นายยา เซ็ง อายุ 38 ปี เป็นชาวกัมพูชา ส่วนพวกสามารถหลบหนีไปได้ 4 ราย พบของกลาง เป็นไม้ชิงชันแปรรูป จำนวน 4 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 0.22 ลูกบาศก์เมตร พร้อมอุปกรณ์ทำไม้

ภาพจากอีจัน

จากการสอบถามผู้กระทำความผิดได้ข้อมูลว่า ได้ลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในฝั่งไทย เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 63 เวลา 11.00 น กับพวกรวม 13 คน จะมีคนนำทาง เป็นชาวกัมพูชา 1 คน และเป็นคนไทย 2 คน เข้ามาเพื่อทำไม้ชิงชันตามออเดอร์ เสร็จเมื่อคืนวันที่ 2 พ.ค. 63 แล้วนอนพัก ตี 4 ถึงได้ ขนย้าย โดยแบกกันคนละ 1 เหลี่ยม ซึ่งชุดล่วงหน้า มี 5 คน (ชุดที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้) ส่วนชุดหลัง อีก 6 คน ยังพักอยู่ในป่า

เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา จึงยังคงดักซุ่มอยู่ในพื้นที่ต่อไป และลาดตระเวนในบริเวณใกล้เคียง จนกระทั่งวันที่ 4 พ.ค. 63 เวลา 06.30 น. พบของกลางไม้ชิงชัน จำนวน 9 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 0.55 ลบม. ห่างจากชายเดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 5 กม. แต่ไม่พบผู้กระทำผิด คาดว่าผู้กระทำผิดน่าจะทราบว่าชุดล่วงหน้าถูกจับกุมได้ และยังคงมีเจ้าหน้าที่เฝ้าดักซุ่ม จึงได้ทิ้งไม้ไว้ในพื้นที่และหลบหนีไป

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

แต่ด้วยนิสัยของกลุ่มทำไม้ จะไม่สนใจใด ๆ แม้มีกลุ่มหรือพรรคพวกโดนจับ กลุ่มทำไม้ก็จะยังคงหาคนกลุ่มใหม่ขึ้นมาทำไม้ เขาคิดเรื่องเดียว คือ ทำอะไรก็ได้ เพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่าย โดยราคาที่ซื้อขาย ไม้มะค่าโมง ประดู่ ขนาดความกว้าง 80-100 ซม. ยาว 2 เมตร หนา 10 ซม. ราคารับซื้อแผ่นละ 2 ล้านเรียล (ประมาณ 2 หมื่นบาท) ส่วนไม้ชิงชิน รับซื้อ กก. ละ 40-100 บาท

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้มีข้อสั่งการตั้งแต่มีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยให้พี่น้องเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุกนายเฝ้าระวังภัยคุกคามอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชม. แม้การท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะปิด แต่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ายังคงทำงานกันอย่างหนัก เพื่อเฝ้าระวังภัยคุกคาม ทั้งไฟป่า ล่าสัตว์ และทำไม้ เพื่อปกป้องรักษาทรัพยากรป่าไม้คงอยู่

ภาพจากอีจัน