“ไอ้เกล้า” คนพาเปรี้ยวหั่นศพหนีในเมียนมา ถูกส่งตัวให้ไทยแล้ว

เมียนมาส่งตัว “ไอ้เกล้า “ผู้ต้องหาคดียาเสพติดและพาเปรี้ยวหั่นศพหนีในเมียนมาให้ไทยแล้ว


วันนี้(30 เม.ย. 63) เวลา 17.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรแม่สาย พ.ต.อ.มานพ เสนากูล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกสันต์ ศรีสองเมือง ผกก.สภ.แม่สาย และพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย นำตัว นายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ “เกล้า” อายุ 29 ปี ชาว ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีที่ จพ157/2559 และศาลจังหวัดศรีสะเกษที่ 20/2560 ข้อหา จำหน่ายยาบ้า และอาจมีส่วนเกี่ยวข้องนำพา น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว” อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวร้านคาราโอเกะที่ อ.เขาสวนกลาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2560 ในช่วงที่หลบหนีเข้าไปพักอยู่ที่โอโซน สปา แอนด์ คาราโอเกะ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ก่อนถูกจับกุมดำเนินคดีตามที่ปรากฎเป็นข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 3-4 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
โดย พ.ต.อ.มานพ เสนากูล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางไปรับตัว นายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ “เกล้า” จากด่านศุลกากรแม่สาย(สะพานแห่งที่ 2) หลังจากผ่านการคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 ของสาธารณสุขร่วมกับคนไทยรวม 26 คน ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหาในคดีอื่นอีกรวม 4 คน เมื่อทางเจ้าหน้าที่รับตัวนายเกล้า พร้อมกับผู้ต้องหาคดีอื่นก็นำตัวมาสอบสวนปากคำที่ สภ.แม่สายทันที
ภาพจากอีจัน
พ.ต.อ.มานพ เสนากูล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า "นายเกล้า" ถูกทางการเมียนมาจับในคดีมีอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตไว้ในครอบครองในเขตเมืองเชียงตุง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมา และเมื่อพ้นคดีที่เมียนมาก็ถูกส่งกลับมายังประเทศไทย เพื่อดำเนินคดีไทยต่อตามหมายจับ ส่วนคดี ของน.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว” อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวร้านคาราโอเกะที่ อ.เขาสวนกลาง จ.ขอนแก่น นายเกล้า ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องพา น.ส.เปรี้ยวหนี โดยแจ้งว่าไปพบ น.ส.เปรี้ยว ในผับแห่งหนึ่งในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่ง น.ส.เปรี้ยวได้ไปทำงานเป็นพีอาร์อยู่และมีการพูดคุยดื่มกินตามประสาคนไปเที่ยว
ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ นายเกล้า และผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งหมดจะถูกนำตัวไปดำเนินคดีในพื้นที่ก่อเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป