วันนี้ (30 เมษายน 2563) พันตำรวจเอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงที่ยังต้องให้ความสำคัญและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับทางรัฐบาลได้ประกาศขยายระยะเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม 2563)
- คุมเข้ม กรมราชทัณฑ์ สั่ง แยกขังผู้ต้องกักขังเข้าใหม่ 27 ราย เพื่อเฝ้าระวังอาการ
- เตือน! อย่าเชื่อข่าวปล่อยนักโทษ 38,000 คน กรมราชทัณฑ์ ยันไม่เป็นความจริง
- กรมราชทัณฑ์ ทุ่มงบ 193.52 ล้าน ซื้อเวชภัณฑ์-ทำห้องกักโรค ป้องกันโควิด-19
เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย กรมราชทัณฑ์ จึงได้ดำเนินการกำชับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไปยังเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ และขอความร่วมมือจากญาติผู้ต้องขังทุกท่าน ดังนี้
1. ของดการเยี่ยมญาติ ระหว่างวันที่ 1- 30 พฤษภาคม 2563
2.ขอความร่วมมือจากญาติผู้เข้ารับบริการเยี่ยมญาติผ่านระบบแอปพลิเคชั่นไลน์
โดยห้ามมิให้บันทึกภาพนิ่งหรือวีดิโอการเยี่ยมญาติ แล้วนำไปเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ หากพบว่ามีพฤติการณ์ดังกล่าว ให้ยุติการเยี่ยมโดยทันทีและไม่อนุญาตให้ผู้ต้องขังรายนั้นรับการเยี่ยมผ่านระบบดังกล่าวอีก
ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจในสถานการณ์ และมั่นใจในมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกรมราชทัณฑ์ ณ ปัจจุบันกรมราทัณฑ์ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม ยังคงมียอดสะสมเพียง 5 ราย ผู้ต้องขังติดเชื้อ 2 ราย (หายแล้ว) และมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ 3 ราย (หายแล้ว 1 ราย และอยู่ระหว่างการรักษาตัว 2 ราย) ซึ่งที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ได้ติดตามสถานการณ์การเจ็บป่วยของผู้ต้องขังในทุกเรือนจำอย่างใกล้ชิดทุกวัน เพื่อจำกัดจำนวนผู้ต้องขังที่อยู่ในภาวะเสี่ยงและติดโรคระบาดนี้ให้น้อยที่สุด พร้อมวางมาตรการป้องกันไว้อย่างเต็มที่ ตลอดจนมีการตั้งวอร์รูมที่กรมราชทัณฑ์รายงานติดตามสถานการณ์ทุกวัน เชื่อว่าหากเราร่วมมือกันทุกฝ่ายจะสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้ในเร็ววัน