วันนี้ (27 เม.ย. 63) กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. รายงานผลการจับกุม ผู้ต้องหาหลอกพาคนไปทำงานต่างประเทศ โดยสั่งการให้ พ.ต.ต.กิตติภพ ทองเพชร สว.กก.3 บก.ป. พร้อมตำรวจชุดสืบสวนจับกุม ร่วมกันจับกุม น.ส.สมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 270/2562 ลง 7 พ.ย.62 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกง และหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง”
ภาพจากอีจัน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก น.ส.สมชาย หลอกว่า สามารถพาคนไปทำงานต่างประเทศ โดยเรียกเงินจากผู้เสียหายเพื่อทำการดำเนินการต่างๆ แต่พอถึงเวลาผู้เสียหายกลับไม่ได้หลักฐานในการไปทำงานต่างประเทศอย่างที่อ้างไว้ โดย น.ส.สมชาย มีการหลบหนีพักอาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง มีการเช่าเปิดห้องพัก อีกทั้งมีการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์อยู่ตลอด เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม
จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (26 เม.ย.63) ตำรวจชุดจับกุม สืบทราบว่า น.ส.สมชาย แอบมาเช่าห้องพักที่คอนโดแห่งหนึ่ง จึงได้วางแผนโดยวางกำลังดักซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าว เมื่อพบ น.ส.สมชาย ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เข้าแสดงตัวและแสดงหมายจับให้ โดย น.ส.สมชายฯ รับว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับฉบับดังกล่าวมาก่อน
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.สมชาย ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงประมาณ 80 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 5-6 ล้านบาท เนื่องจากตนเองเคยไปทำงานต่างประเทศมาก่อน หลังกลับมา จึงยึดอาชีพแนะนำหาคนงาน ส่งไปต่างประเทศ สวีเดน เดนหมาก เกาหลี อังกฤษ โดยแนะนำให้ติดต่อมาที่ตนเอง เมื่อมีผู้หลงเชื่อก็จะให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง 50,000 บาท เพื่อจะนำไปใช้ในการทำ work permit และ visa ในการไปทำงาน แต่เมื่อได้เงินแล้ว ตนไม่สามารถออกใบอนุญาตทำงานให้ผู้เสียหายได้ และไม่ยอมคืนเงินให้ เมื่อถูกทวงถามก็จะบ่ายเบี่ยง ปัดเลื่อน อ้างว่ายังไม่ได้เงินคืนจากบุคคลที่ตัวเองนำไปให้เขาดำเนินการ จากนั้นก็จะหลบหนีโดยการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์และเปลี่ยนที่อยู่ใหม่
ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ยังพบว่า มีผู้เสียหายใน จ.เชียงใหม่ จ.นครสวรรค์ จ.กำแพงเพชร จ.หนองคาย จ.อุดรธานี จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ ที่ตกเป็นเหยื่อ โดยหลังจากที่มีการขออนุมัติออกหมายจับแล้ว พบว่ามีผู้เสียหายที่ทราบข่าวการถูกจับกุม ได้เดินทางมาร้องทุกข์เพิ่มเติมจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบพบมีหมายจับติดตัวอีกหลายคดี ดังนี้
พ.ศ.2562 ก่อเหตุที่ สภ.ลำปลายมาศ ตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ จ.22/2563 ลง 20 ก.พ.63 ข้อหา “หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง และฉ้อโกง” (ต้องการตัว)
พ.ศ.2562 ก่อเหตุที่ สภ.ลำปลายมาศ ตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ จ.23/2563 ลง 20 ก.พ.63 ข้อหา “หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง และฉ้อโกง” (ต้องการตัว)
ตำรวจชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ สภ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ภาพจากอีจัน