การทรวงสาธารณะสุข แถลงความคืบหน้าการเเพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 25 เมษายน 2563 เกี่ยวกับเรื่องการเตรียมความพร้อมการผ่อนคลานมาตรการล็อกดาวน์ของประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการในการกลับมาเปิดให้บริการ หลังจากบาดของโควิด-19 สถานการณ์การแพร่เริ่มคลี่คลาย และอีกหนึ่งสถานบริการที่ประชาชนให้ความสนคือ สถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพและนวดเพื่อการเสริมความงาม ว่าขณะนี้มีมาตรการเตรียมความพร้อมพร้อมอย่างไร
ซึ่งทาง นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยว่า
เป็นการเตรียมการเพื่อผ่อนคลายเงื่อนไขถ้าสมมติมรการผ่อนคลายหรือผ่อนปรนการเปิดสถานประกอบการได้ สิ่งที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดูอยู่ก็คือพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ซึ่งตรงนั้นจะมีกิจการอยู่ 3 ประเภทคือ สปา,นวดเพื่อสุขภาพ,นวดเพื่อเสริมความงาม และคลินิกเสริมความงามต่างๆ
ซึ่งตอนนี้มีร้านนวดและร้านสปาที่ขึ้นทะเบียนอยู่หลายพันร้าน รวมถึงผู้ให้บริการนวดที่ขึ้นทะเบียนอยู่อีกนับแสนคน ทั่วประเทศ ทั้งนี้ถ้ามีการเตรียมความความพร้อมในเรื่องของความสะอาดเรื่องของการเว้นระยะให้เกิดความปลอดภัยทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ทุกฝ่าย ทั้งทางด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ
ซึ่งการให้บริการนวดถือเป็นการใกล้ชิดให้บริการและผู้รับบริการ ทั้งนี้ยังคงต้องเตรียมการเข้มข้นก็ต้องรอสถานการณ์หากทางรัฐบาลประกาศผ่อนปรนเป็นประเภทต่อไป
ซึ่งทางทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเผยว่าขณะนี้ทางกรมสนับสนุนสุขภาพได้ให้ความสำคัญสูงมาก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ที่ไปใช้บริการ
ซึ่งทางผู้ประกอบการต้องปฏิบัติดังนี้
-ผู้ประกอบการต้องมีจุดคัดกรองในการตรวจวัดอุณหภูมิของทั้งผู้มาใช้บริการ และผู้ให้บริการ
-รักษามาตรฐานสถานที่ให้มีความปลอดภัยเก้าอี้นวดต่างๆ ต้องมีการเว้นระยะห่างกัน 1 เมตร หรือผู้ใช้บริการ 1 คน ต่อ 1ห้อง
ผู้ให้บริการ
-หากมีไข้,เจ็บคอ,น้ำมูก หรืออาการสุ่มเสี่ยง ให้หยุดใหเบริการและรีบไปพบแพทย์
-สังเกตสุขภาพของผู้รับบริการที่มาใช้บริการ และแนะนำให้ผู้รับบริการสวมหน้ากากอนามัย ระมัดระวังการสัมผัสใกล้ชิดขณะให้บริการ ต้องสวมหน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมือทุกครั้งก่อนให้บริการ หากมีอาการป่วยรีบไปพบแพทย์และแจ้งผู้รับบริการ
-ไม่ใช่สิ่งของร่วมกับผู้อื่นเช่น แก้วน้ำ,หลอดดูดน้ำ,ช้อน,ผ้าเช็ดตัว ,ผ้าเช็ดมือ เป็นต้น
พนักงานทำความสะอาด
-พนักงานทำความสะอาดต้องสวมเครื่องมือ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลได้แก่ หมวกคลุมผม,หน้ากากอนามัย,ถุงมือ
-ทำความสะอาดบริเวณที่มีคนเดินผ่านหรือมีการสัมผัสร่วมกัน อย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังสัมผัส
-ซักล้างทำความสะอาดสิ่งของในสถานประกอบการอย่างถูกสุขลักษณะ
-ควรมีการจัดการขยะติดเชื้อ สิงปฏิกูลและน้ำเสียอย่างเหมาะสม
แนวทางการปฏิบัติของคลินิกความงาม
ผู้ประกอบการ
-จัดให้มีจุดคัดกรองด้านนอกก่อนเข้าสถานพยาบาล/ในคลินิกบริเวณหน้าประตูทางเข้าจัดเป็น
– จัดเตรียมหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ให้ข้อมูลความรู้ คำแนะนำ หรือจัดหาสื่อประชาสัมพันธ์การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค
-รักษามาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต
-ผู้ให้บริการทุกคนสวมอุปกรณ์ป้องกันตนเองขณะปฏิบัติงานระมัดระวังการสัมผัสใกล้ชิดกับ
ผู้รับบริการ
-จัดที่นั่งรอระยะห่าง1.5 – 2 เมตร แยกระหว่างผู้ติดตามกับผู้มาตรวจรักษา
– ห้องให้บริการต้องเป็น 1คนต่อห้อง กรณีที่เป็นเตียง หรือเบาะต้องมีม่านกั้น เป็นสัดส่วน
-ควรมีบริการชำระเงินที่ปลอดภัย เพื่อลดปริมาณการพูดคุย สัมผัส ระหว่างพนักงานกับผู้รับบริการ
-ให้ความร่วมมือในการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนการใช้บริการ
-ล้างมือก่อนใช้บริการ และหลังใช้บริการด้วยน้ำสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล
-ปฏิบัติตามคำแนะนาของสถานพยาบาลอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ
-สวมหน้ากากอนามัยตลอดการใช้บริการตรวจรักษา
พนักงานทำความสะอาด
– ทำความสะอาดทั่วไปก่อนเปิดและปิดคลินิก ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐาน
-พ่นทำความสะอาตด้วย alcohol ทุก 4 ชั่วโมง
– จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการตามจุดต่างๆทั้งภายในและภายนอก คลินิก
– อาจใช้หลอดไฟ UVC (Ultra Violategxbf. Germicidal Iradiation) ในการฆ่าเชื้อหลังปิดคลินิก
ทั้งนี้รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพบอกอีกว่า สถานที่จะได้รับอนุญาตให้บริการนั้นจะต้องการรับการตรวจยืนยันจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพฯก่อน