กรมชลฯ เผย เชียงใหม่มีน้ำใช้เพียงพอตลอดหน้าแล้งนี้ วอนทุกฝ่ายช่วยกันประหยัด

อธิบดีกรมชลประทาน เดินหน้ามาตรการรับมือภัยแล้ง ย้ำเมืองเชียงใหม่ มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดแล้งนี้

24 เมษา 2563 ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า สืบเนื่องจากในช่วงฤดูฝนปี 2562 ที่ผ่านมา มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยทั้งจังหวัดเพียง 911 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ยถึง 22 % (ฝนเฉลี่ย 1,168 มิลลิเมตร) ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมไปถึงแม่น้ำสายต่างๆ มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย กระทบต่อปริมาณน้ำดิบที่จะใช้ในการผลิตประปาหลายแห่ง

ภาพจากอีจัน

กรมชลประทาน จึงได้ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งนี้ โดยใช้น้ำต้นทุนจาก 2 เขื่อนใหญ่ คือ

1.เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างฯ 46.56 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือร้อยละ 18 ของความจุอ่างฯ

2.เขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 60.60 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 23 ของความจุอ่างฯ

รวมทั้งใช้น้ำจากอ่างขนาดกลางอีก 12 แห่ง ที่มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 22 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งได้มีการวางแผนจัดสรรน้ำเฉพาะการอุปโภคบริโภคในเขตชลประทานไว้อย่างเพียงพอไปจนถึงต้นฤดูฝนที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ภายใต้เงื่อนไขที่ทุกฝ่ายต้องร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

สำหรับมาตรการรับมือภัยแล้งนั้น ดร.ทองเปลว เผยว่า ได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติตามแผน อาทิ การขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการและแผนการใช้น้ำชลประทานอย่างเคร่งครัด การกำหนดให้มีการใช้น้ำในคลองส่งน้ำได้ตั้งแต่วันจันทร์ เวลา 09.00 น. ถึงวันศุกร์ เวลา 18.00 น. และหยุดใช้น้ำในวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์ สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสามารถสูบน้ำได้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ไม่เกินวันละ 10 ชั่วโมง และให้งดสูบน้ำในวันเสาร์และอาทิตย์ สถานีสูบน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคและการประปาส่วนท้องถิ่น สามารถทำการสูบน้ำได้ตามปกติตามแผนที่ได้เสนอกรมชลประทานไว้แล้ว

ภาพจากอีจัน

พร้อมกับขอความร่วมมือให้งดการเลี้ยงปลาในกระชังทั้งในแม่น้ำปิง คลองส่งน้ำ และเหมืองส่งน้ำ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563

รวมทั้ง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำ คู คลอง หรือแหล่งน้ำต่างๆ เนื่องจากจะทำให้ต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อเจือจางน้ำเสีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำที่จะใช้ในการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ตลอดฤดูแล้งนี้

"ในส่วนของการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้งของจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้งไปแล้ว 10 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ฝาง อ.เชียงดาว อ.แม่อาย อ.แม่แตง อ.สันป่าตอง อ.ฮอด อ.อมก๋อย อ.ดอยหล่อ อ.กัลยาณิวัฒนา และ อ.ดอยเต่า พื้นที่ประสบภัย 18 ตำบล 216 หมู่บ้าน 67,608 ครัวเรือน" ดร.ทองเปลว กล่าว

ภาพจากอีจัน

นอกจากนี้ กรมชลประทาน ยังได้สนับสนุนเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ และรถบรรทุกน้ำ เข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ขาดแคลนน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยรถบรรทุกน้ำ ได้มีการนำน้ำไปแจกจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภค (ตั้งแต่ 1 – 22 เม.ย. 63) รวมปริมาณน้ำกว่า 746,000 ลิตร และได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 เครื่อง ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร (ไม้ผล ไม้ยืนต้น) รวมกว่า 5,000 ไร่ ปริมาณน้ำที่สูบสะสมรวมประมาณ 2,505,000 ลบ.ม.

ทั้งนี้ จะดำเนินการช่วยเหลือไปจนกว่าจะเข้าสู่ฤดูฝนหรือมีฝนตกชุกในพื้นที่สม่ำเสมอ

ภาพจากอีจัน