สาวไทยในปารีส เผยประสบการณ์รอดตาย หลังเคยติดเชื้อโควิด-19

สาวไทย ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส อัดคลิปเล่าวิธี หายป่วยโควิด-19 ด้วยการกินยาพารา และรับการวินิจฉัยจากโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว

วันที่ 22 เม.ย. 63 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Fern’s Simple Journal” โพสต์คลิปวีดีโอเล่าประสบการณ์ รักษาอาการป่วยโควิด-19 ขณะที่อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส เธอได้เขียนข้อความว่า “ฮาวทูรอดตายจาก #Covid19 ในแพรีส

เฟินทำคลิปเล่าประสบการณ์ช่วงที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่จริงก็คิดอยู่นานว่าจะทำคลิปนี้ออกมาดีไหม แต่เชื่อว่าหลายคนอยากรู้ว่าเฟินผ่านมันมาได้อย่างไร หวังว่าจะช่วยเป็นกำลังใจให้คนที่เผชิญกับไวรัสนี้อยู่ต่างแดน อย่างน้อยก็อยากให้รู้ว่าคุณไม่ได้สู้อยู่คนเดียวนะ เป็นได้ก็หายได้ค่ะ!!

เฟินขอแรงเพื่อนๆพี่ๆ ทั้งขาจร/ขาประจำ ช่วยแชร์หน่อยนะคะ เฟินตั้งใจพูดมากๆ ดูจากแสงในคลิปก็จะรู้ว่าหลายเทกมากๆ ตั้งแต่บ่ายยันเย็น แดดออกจนแดดหมด เพื่อนสนิทก็เป็นห่วงอยู่ว่าจะอัดรอดมั้ย เพราะปกติพูดจาไม่รู้เรื่อง”

ภาพจากอีจัน
โดยเนื้อหาภายในคลิป คุณเฟินเล่าว่า เมื่อกลางเดือนที่แล้ว (มีนาคม) คุณเฟินได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ขณะนี้หายเป็นปกติแล้ว จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ ให้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ หรืออยู่ห่างจากบ้านของตัวเอง ว่าจะต้องรักษาตัวอย่างไร ถึงสามารถหายจากการติดเชื้อโควิด-19 ได้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 63 คุณเฟิน เริ่มมีอาการป่วย มีไข้ วัดอุณหภูมิร่างกายได้ 38 องศากว่าๆ โดยขณะนั้นเองประเทศฝรั่งเศส ได้ทำการปิดประเทศเรียบร้อยแล้ว และไม่อนุญาตให้ผู้คนไปหาหมอด้วยตนเอง หากมีไข้จะต้องโทรไปหาแพทย์ประจำตัว หรือแพทย์ใกล้บ้าน โดยคุณเฟิน ก็ได้โทรไปบอกอาการกับแพทย์ ซึ่งแพทย์ได้แนะนำให้ดูอาการไปก่อน เนื่องจากเป็นวันแรกที่แสดงอาการอาจจะยังไม่ติดเชื้อก็ได้

หลังจากนั้น 2-3 วัน คุณเฟิน ก็ยังมีอาการป่วยอยู่ และได้ทานยาพาราควบคู่ตลอด เนื่องจากเป็นยาที่หาง่าย และมีอยู่ติดตัวในขณะนั้น แต่อาการของวันที่ 3 กลับรุนแรงขึ้น เพราะมีอาการเหนื่อยง่าย และมีอาการหายใจไม่เต็มปอด โดยตนก็ได้โทรหาแพทย์อีกครั้ง แต่แพทย์ได้ให้คำตอบว่า “ ต้องรออีก 7 วันก่อน เพราะเท่าที่ฟังน่าจะยังไม่มีอาการอะไร” แต่ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงทำการโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว โดยคุณเฟิน รอคนรับสายนานกว่า 15-20 นาที ถึงจะมีคนรับสาย และคนที่รับสายได้แจ้งว่า มีคนโทรมาจำนวนมากจึงทำให้รอสายนาน และหลังจากนั้นก็ได้สอบถามอาการเบื้องต้น ซึ่งขณะที่ให้ข้อมูลกับสายฉุกเฉินไป คุณเฟิน ก็มีอาการเหนื่อยเป็นระยะๆ โดยสายฉุกเฉินได้วินิจฉัยว่า “น่าจะเป็นอาการของโควิด-19” ซึ่งคุณเฟิน ก็ได้ถามไปว่า “แล้วจะต้องทำอย่างไรต่อ” และคำตอบที่ได้คือ “ต้องอยู่บ้านเพื่อสังเกตอาการต่อไป เนื่องจากฉุกเฉินไม่สามารถมารับตัวได้ เพราะคนที่มีอาการหนักกว่ามีจำนวนมากจึงต้องให้สังเกตอาการตัวเองจนกว่าจะมีอาการหนัก เช่น หายใจเองไม่ได้ หรือ หอบตลอดเวลา” ซึ่งความคิดคุณเฟิน ตอนนั้น ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว แต่สุดท้ายรถฉุกเฉินก็ไม่ได้ทำการมารับตัวเธอไปรักษา

ต่อมาอาการป่วยของวันที่ 4-5 ก็หนักขึ้นกว่าเดิมมากถึงขั้นจะเป็นลม และมี อาการผิดปกติเกี่ยวกับการรับรู้กลิ่น เนื่องจากกลิ่นขนมที่รับประทานอยู่เป็นประจำ มีกลิ่นและรสชาติไม่เหมือนเดิม คุณเฟิน จึงได้ทดสอบด้วยการเอาน้ำหอมมาฉีดที่ปลายจมูกเพื่อเช็กให้ชัด โดยผลปรากฏว่า “ไม่ได้กลิ่นน้ำหอมจริง” ซึ่งคุณเฟิน คิดว่า ต่อไปจะมีปัญหาเกี่ยวกับการได้กลิ่นหรือไม่ เนื่องจากทำงานเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งต้องอาศัยการดมกลิ่น และชิมรสชาติของอาหารหากเสียการสัมผัสกลิ่นแล้วจะต้องเป็นปัญหาในการทำงานแน่นอน

ภาพจากอีจัน
เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ อาการไข้ไม่มีแล้ว แต่ยังมีการไอ และ ไม่ได้กลิ่นเหมือนเดิม จนกระทั่งอาทิตย์ที่ 3 อาการเริ่มดีขึ้นสามารถรับรู้กลิ่นและรสชาติอาหารได้ แต่ยังคงมีอาการไออยู่ โดยที่ผ่านมา คุณเฟิน ได้รักษาอาการเหล่านี้ ด้วยการกินยาพาราเพียงอย่างเดียว และมีการดื่มน้ำอยู่บ่อยครั้ง โดยขณะนั้นก็ได้ทำการโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน และแพทย์อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มีการมารับไปรักษาแต่อย่างใด โดยได้รับคำยืนยันว่า “อาการของตนไม่ได้มีอาการหนักมาก”

ส่วนสาเหตุที่ทำให้แน่ใจว่าตนเองติดโควิด-19 แน่ๆ เนื่องจากเพื่อนที่ทำงานมีคนติดโควิด-19 โดยวันสุดท้ายตนไปทำงานในร้าน ได้อยู่ข้างๆกับคนที่ติดเชื้อแบบใกล้ชิดกัน โดยขณะนี้ขอยืนยันว่าหายดีแล้ว เนื่องจากไม่มีอาการใดๆที่บ่งบอกว่าป่วยโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ขณะที่กำลังต่อสู้กับโรคโควิด-19 คือการพักผ่อนนอนหลับหลายชั่วโมง ดื่มน้ำเยอะๆ และกินยาพาราควบคู่ไปด้วย โดยอาการป่วยในอาทิตย์แรกจะหนักที่สุด และหลังจากนั้นจะค่อยๆเริ่มดีขึ้น โดยทั้งหมดนี้ คุณเฟิน ใช้เวลาต่อสู้กับอาการมาเป็นระยะเวลา 4 อาทิตย์ โดยสาเหตุของการหายป่วยอาจจะเป็นเพราะอายุยังน้อย จึงสามารถหายด้วยตนเองได้ สุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ขณะนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี