(19 เม.ย.63) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ที่คาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน พระราชวังดารุล อามาน (Darul Aman Palace) ที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษก่อน ตั้งอยู่สุดฝั่งตะวันตกของเมืองคาบูล ถูกแปลงเป็นโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 เม.ย.63 ที่ผ่านมา เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอัฟกานิสถาน
- ผู้ป่วยโควิด-19 ในสเปน ทะลุ 200,000 ราย
- อนามัยโลกชี้ ยกเลิกปิดเมือง ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการแพร่ระบาดโควิด
- จีนออกแนวทางให้ศาลทุกเเห่งปฏิเสธคำร้องการเลิกจ้างพนักงานด้วยโควิด
“พระราชวังแห่งประวัติศาสตร์กลายเป็นสถานที่กักกันโรค พร้อมเตียง 200 เตียงสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19” ฟิโรซัดดิน เฟรอซ (Firozuddin Feroz) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอัฟกานิสถาน กล่าวในการเปิดงาน
หลังจากได้รับความเสียหายอย่างหนักเนื่องจากสงครามและสร้างขึ้นใหม่ในปี 2019 พระราชวังสไตล์ยุโรปแห่งนี้ก็ออกแบบมาเพื่อรองรับการประชุมของเจ้าหน้าที่รัฐบาล และยังใช้เป็นที่พักรับรองแขกระดับสูง แต่ต่อจากนี้ไปจะใช้เป็นที่กักกันผู้ป่วยติดเชื้อจนกว่าโรคระบาดจะหมดไปจากประเทศ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้จัดตั้งศูนย์กักกันโรคและคลินิกสุขภาพ ให้บริการแก่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ในอัฟกานิสถานอีกด้วย
อับดุล วาดูด (Abdul Wadoud) ประชาชนในกรุงคาบูลยอมรับการตัดสินใจที่สมเหตุสมผลในการต่อสู้กับโรคระบาดในอัฟกานิสถาน และกล่าวว่าการแพร่ระบาดของโรคที่รวดเร็วในขณะนี้จำเป็นต้องมีศูนย์กักกันโรคเพิ่มเติม และมีโรงพยาบาลตรวจหาโรคมากขึ้น
“สถานการณ์กำลังวิกฤต ไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ พวกเราทุกคนรวมถึงรัฐบาลและประชาชน ควรร่วมมือกันเพื่อเอาชนะไวรัสนี้ เราทุกคนควรอยู่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสไวรัส และรัฐบาลควรจัดสถานพยาบาลและการแพทย์ที่จำเป็นเพื่อต่อสู้กับโรคร้าย”
วาฮีดุลลาห์ มายาร์ (Wahidullah Mayar) โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เผย เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อสูงถึง 993 ราย และอาจเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 หากผู้คนละเลยคำแนะนำของกระทรวง หรือละเมิดกฎระเบียบที่กำหนดในช่วงกักกัน รัฐบาลจึงได้กำหนดช่วงเวลาเคอร์ฟิวตอนกลางวันในเมืองต่างๆ รวมถึงกรุงคาบูล ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมและขยายเวลาต่อไปอีก 3 สัปดาห์เมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน
เพราะนับตั้งแต่เกิดการระบาดในอัฟกานิสถานช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อ 33 ราย รวมถึงแพทย์ 3 รายเสียชีวิต ส่วนผู้ป่วยอีก 131 รายได้รับการรักษาจนหายดี