วานนี้ (15 เม.ย.2563) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศระงับการให้เงินสนับสนุนองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 เม.ย.
ล่าสุดอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการแห่งสหประชาชาติกล่าวว่าทุกฝ่ายควรให้การสนับสนุนองค์การอนามัยโลก (WHO)
โฆษกของกูเตอร์เรส เผยแพร่แถลงการณ์ของเขาซึ่งระบุว่า “ผมเชื่อว่าองค์การอนามัยโลกควรได้รับการสนับสนุน เพราะเป็นองค์กรสำคัญยิ่งที่จะทำให้โลกสามารถเอาชนะสงครามโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
(โควิด-19) ได้”
กูเตอร์เรสระบุว่าขณะนี้ “ไม่ใช่เวลาของการลดทอนทรัพยากรสำหรับสนับสนุนปฏิบัติการต่อสู้กับเชื้อไวรัสขององค์การอนามัยโลก และองค์กรด้านมนุษยธรรมทุกแห่ง”
“เมื่อเราผ่านพ้นการแพร่ระบาดในครั้งนี้ไปได้ เราจะมีเวลามองย้อนกลับมาพิจารณาอย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจว่าเชื้อไวรัสเกิดขึ้น แพร่กระจาย และสร้างความเสียหายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วได้อย่างไร
และแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับมือกับวิกฤตในครั้งนี้อย่างไรบ้าง” กูเตอร์เรสกล่าว
“การเรียนรู้จากเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จะทำให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายที่คล้ายคลึงกันซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต”
กูเตอร์เรสระบุว่า “ขณะนี้เป็นเวลาที่เราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง และประชาคมระหว่างประเทศต้องทำงานร่วมกันอย่างสามัคคี เพื่อหยุดยั้งการระบาดของไวรัส และผลกระทบที่ร้ายแรงของมัน”
เลขาธิการสหประชาชาติยังกล่าวถึงแถลงการณ์ของตนเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ซึ่งระบุว่า “การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นหนึ่งในความท้าทายที่อันตรายที่สุดของโลกเราเคยเจอมา
เป็นภัยใหญ่หลวงกว่าวิกฤตทั้งมวลที่มนุษย์เคยเผชิญ และมีผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ และเศรษฐกิจสังคม” โดยองค์การอนามัยโลกให้การสนับสนุนประเทศสมาชิกและสังคมของประเทศเหล่านั้น
โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่อ่อนแอที่สุด “ด้วยการให้คำชี้แนะ ฝึกอบรม มอบอุปกรณ์ต่างๆ และให้การช่วยชีวิตผู้คนอย่างเป็นรูปธรรม” ระหว่างที่ประเทศเหล่านั้นต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส