อภ. เพิ่มกำลังการผลิตอีก 50% ให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง มียาใช้อย่างต่อเนื่องช่วงโควิด-19

รอง.ผอ.อภ. เผย มั่นใจผลิตยาได้ตามความต้องการ เพิ่มกำลังอีก 50% ผลิตยาให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ขณะเดียวกันก็ผลิตยาจำเป็นใช้รักษาโควิด-19

จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก รวมถึงประเทศที่เป็นผู้ผลิตวัตถุดิบของยา เช่น จีน อินเดีย อเมริกา และประเทศแถบยุโรป ซึ่งประเทศเหล่านี้ได้ใช้มาตรการปิดประเทศ ทำให้เกิดปัญหาในการจัดส่งวัตถุดิบยา บรรจุภัณฑ์ ประกอบกับหลายโรงพยาบาลเริ่มมีการใช้นโยบายจ่ายยาสำหรับโรคเรื้อรังล่วงหน้า 6 เดือน เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล จึงทำให้โรงพยาบาลมีการสำรองยามากกว่าปกติ ขณะเดียวกันต้องเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนยาจำเป็นที่ต้องใช้รักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน 5-6 รายการด้วย

ภาพจากอีจัน

โดย ดร.ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า
ในภาวะปกติ องค์การฯ จะมีการสั่งซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับการผลิตไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งอาจมีวัตถุดิบบางรายการต้องกำกับดูแลเป็นพิเศษ โดยจะมีการทยอยผลิตเป็นยาสำเร็จรูปสำรองไว้ในคลังในจำนวนที่ผู้ป่วยสามารถใช้ได้ 2-3 เดือนเป็นอย่างน้อย

หลังจากเริ่มมีสถานการณ์โควิด-19 เข้ามา องค์การฯ ได้เร่งให้มีการส่งมอบวัตถุดิบ และอุปกรณ์การผลิตต่างๆ เร็วขึ้น หากวัตถุดิบบริษัทไหนติดขัดเรื่องการส่ง จะทำการจัดซื้อจากแหล่งวัตถุดิบแห่งใหม่ 2-3 แห่ง ที่ได้รับการตรวจรับรองคุณภาพแล้ว เพื่อนำมาใช้ในการผลิตได้ทัน และเพียงพอต่อความต้องการ พร้อมทั้งได้ติดตั้งเครื่องบรรจุยาลงแผงอัตโนมัติความเร็วสูงจากประเทศเยอรมัน อีกหลายเครื่อง ขณะเดียวกันก็หาแหล่งวัตถุดิบเพิ่มเติมอีกหลายแห่ง เช่น

ยาซิมวาสแตติน (Simvastatin) ใช้ลดระดับคลอเรสเตอรอลชนิดไม่ดี และไตรกลีเซอไรด์ในหลอดเลือด ขณะนี้มีแหล่งวัตถุดิบจำนวน 5 ราย ในประเทศอินเดีย อภ. สามารถเพิ่มกำลังผลิต จาก 56 ล้านเม็ด/เดือน เป็น 62 ล้านเม็ด/เดือน
ยาแอมโลดิพีน (Amlodipine) รักษาความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ ขณะนี้มีแหล่งวัตถุดิบ จำนวน 3 ราย ในประเทศอินเดีย อภ. เพิ่มกำลังผลิตจาก 50 ล้านเม็ด/เดือน เป็น 75 ล้านเม็ด/เดือน
ยาเมทฟอร์มิน (Metformin) ยาใช้รักษาโรคเบาหวาน อภ.สามารถเพิ่มกำลังผลิตจาก 75 ล้านเม็ด/เดือนเป็น 106 ล้านเม็ด/เดือน
ยาลอซาร์แทน (Losartan) ใช้ลดความดันโลหิตที่ออกฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ขณะนี้มีแหล่งวัตถุดิบ จำนวน 3 ราย ในประเทศจีน 1 รายและประเทศอินเดีย 2 ราย กำลังผลิตเป็น 27 ล้านเม็ด/เดือน
ยาต้านไวรัสเอดส์ทั้ง 22 รายการ นั้นได้เพิ่มกำลังการผลิตทุกรายการด้วยแล้วเช่นกัน โดยในภาพรวมแล้วคาดว่าเดือนเมษายน องค์การฯจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้เฉลี่ย 30 เปอร์เซ็นต์ และตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปจะเพิ่มกำลังการผลิตยาจำเป็นสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังให้ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตามขอให้มั่นใจได้ว่า องค์การฯ ยังคงสามารถผลิตยาได้ตามความต้องการ และคงราคายาไว้ตามเดิม แม้สถานการณ์ต่าง ๆ จะไม่เอื้ออำนวยมากนัก และผู้ป่วยโรคเรื้อรังจะยังคงมียาใช้อย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือโรงพยาบาลต่าง ๆ ช่วยบริหารจัดการและจัดสรรทยอยส่งยาให้ผู้ป่วยตามรอบการรักษา สอดคล้องกับปริมาณยาที่องค์การฯจัดส่งไปสำรองทุก 1- 2 เดือน โดยจัดส่งยาให้ผู้ป่วยทางไปรษณีย์ ซึ่ง สปสช. ได้จัดงบชดเชยให้หน่วยบริการเพิ่มเติมในอัตราไม่เกิน 50 บาท/ครั้ง หรือโครงการรับยาใกล้บ้าน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมียาใช้อย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์นี้

ภาพจากอีจัน