(14 เม.ย.63) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ที่วอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศต่อหน้าสื่อที่ทำเนียบขาว ว่ารัฐบาลของเขาระงับการระดมทุนอุดหนุนให้แก่องค์การอนามัยโลก (WHO) และทบทวนการทำหน้าที่ขององค์การฯ ในการจัดการปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
- คลิปว่อน ลูกค้าฉุนถูกห้ามไม่ให้เข้าร้านสะดวกซื้อเพราะไม่ใส่แมส ถ่มน้ำลายใส่ พนง.?
- สยบข่าวลือ หมอใหญ่เมืองขอนแก่น ยืนยัน ผู้ป่วยรายที่ 5 ยังไม่เสียชีวิต
- นายกฯ แถลง ปลายเดือนเมษายน 2563 วิเคราะห์การผ่อนปรบ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กันอีกครั้ง
การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อทรัมป์โต้แย้งปกป้องการบริหารจัดการของตน ต่อการระบาดของโรคในสหรัฐอเมริกา หลังจากฝ่ายรัฐสภาวิจารณ์ถึงการมองข้ามความรุนแรงของโรคในช่วงต้นและตำหนิเรื่องการทดสอบโรคที่ล่าช้า
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 24 ก.พ.63 หลายวันก่อนที่สหรัฐฯ จะพบรายงานการเสียชีวิตครั้งแรกจากโรคโควิด-19 เขาเคยทวีตข้อความชื่นชมว่า “ไวรัสโคโรนาอยู่ภายใต้การควบคุมในสหรัฐอเมริกา เราติดต่อกับทุกคนและทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และองค์การอนามัยโลก กำลังทำงานอย่างหนักและชาญฉลาดมาก”
ลอว์เรนซ์ กอสติน (Lawrence Gostin) ผู้อำนวยการของสถาบันโอนีล สถาบันกฎหมายสุขภาพแห่งชาติและระดับโลกแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ กล่าวว่า การตัดเงินทุนให้แก่องค์การอนามัยโลกในช่วงวิกฤตสุขภาพระดับโลกนั้น “น่าอับอาย” และเตือนว่าจะทำให้ผลเสียย้อนกลับมาที่สหรัฐฯ เอง
ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เผยในเจนีนาเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า “เราต้องหยุดฉวยโอกาสทางการเมืองในประเด็นไวรัสทั้งในระดับชาติและระดับโลก เราต้องทำงานร่วมกัน ไม่มีเวลาให้เสียเปล่าอีกแล้ว”
จากรายงานของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ เมื่อวันอังคาร ระบุว่ามีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันในสหรัฐฯ แล้วกว่า 600,000 ราย และมียอดเสียชีวิต 25,575 ราย ซึ่งทั้งสองจำนวนนับว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์