เมื่อวานนี้ (12 เมษายน) นายเอกลักษณ์ วิเศษวงศา อายุ 35 ได้เข้าพบตำรวจที่ สภ.ศรีราชา หลังจากเมื่อวันที่ 8 เมษายน นายเอกลักษณ์ ได้โพสต์ข้อความโดยใช้ชื่อเฟซบุ๊ก “สหายเบิร์น ในตำนาน” ลงในเพจ สีสันการเมือง 2006 ว่า “ไอ้…ที่ไหนไม่รู้ โอนเงินมาให้ 5000 เพื่อด่าสลิ่ม…เห้อ สงสัยจะเป็นไอ้…ประยุ….” ซึ่งข้อความดังกล่าว เป็นข้อความหยาบคาย และกระทบต่อนายกรัฐมนตรี รัฐบาลและความรู้สึกของประชาชนโดยทั่วไป ตำรวจจึงเชิญตัวนายเอกลักษณ์มาพบเพื่อชี้แจ้ง
ภาพจากอีจัน
- พ่อเมืองร่วมใจ สั่งงดขายเหล้า 76 จังหวัดทั่วประเทศ
- เเพทย์โต้ส้มตำไม่ใช่เมนูป้องกันโควิด-19
- คลังชี้ที่คนในครอบครัวเป็นเกษตรกร ก็ไม่ได้เงินเยียวยา?
จากการสอบถาม นายเอกลักษณ์ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่บริษัทค้าน้ำมันประมง แห่งหนึ่ง ต่อมาได้ลาออกจากงานจึงว่างงานช่วงโรคโควิด-19 สมัครงานไปตามบริษัทต่างๆ ในจ.ระยอง แต่บริษัทปิดทำการ จึงได้เดินทางเข้ามาที่ กรุงเทพมหานครและพักอยู่ที่ บ้านพักคนเดินทางดินแดงของกรมแรงาน ซึ่งได้จัดให้เป็นที่พักสำหรับคนตกงาน ในระหว่าง นั้นก็ได้พยายามโทรศัพท์ไปสมัครงานหลายแห่ง แต่ส่วนมากจะปิดทำการหมด จึงได้พักอยู่ที่บ้านพักคนเดินทางจากนั้นได้ย้ายมาทำงานเป็นนายท้ายเรืออยู่บนเรือ ที่จ.ชลบุรี ระหว่างนั้นได้ลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือจำนวน 5,000 บาท
“กระทั่งเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับเงินช่วยเหลือผ่านทางบัญชีธนาคารไทยพานิชย์ และได้แคปเจอร์สลิปโอนเงินที่ได้จากรัฐบาล นำไปโพสต์ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ สหายเบิร์น ในตำนาน ดังกล่าว พร้อมกับข้อความว่า “ไอ้…ที่ไหนไม่รู้ โอนเงินมาให้ 5000 เพื่อด่าสลิ่ม…เห้อ สงสัยจะเป็นไอ้…ประยุ….” ต่อมากลัวความผิดจึงได้ลบโพสต์แล้ว” นายเอกลักษณ์ กล่าว
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
โดยนายเอกลักษณ์ บอกว่า ขอยอมรับผิดทุกประการ ที่ทำลงไปเพราะเครียดที่ตกงาน ขอโทษนายกฯและรัฐบาล ตอนนี้มีงานทำแล้ว จะแจ้งหน่วยงานภาครัฐ เรื่องตนเองว่ามีประกันสังคม และจะหมดสิทธิรับเงิน 5,000 บาท ถ้าหากว่าไม่ผิดเงื่อนไขคุณสมบัติก็จะขอรับสิทธิต่อไป โดยขอโทษสังคมและยอมรับในความผิดที่ตนได้กระทำลงไปทุกประการ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ขอประชาสัมพันธ์ประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งได้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com จะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล รายละ 5,000 บาท เมื่อสมัครและได้รับการตรวจสอบแล้วว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน โปรดอย่าได้กระทำการใดที่เป็นอันละเมิดต่อกฎหมายทั้งความผิดต่อส่วนตัวหรือความผิดอาญาอื่นใดอันเกี่ยวข้องกับกรณีมาตรการเยียวยาดังกล่าวนี้อีก เพราะมิฉะนั้นท่านอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและหมดสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาตามเงื่อนไขคุณสมบัติที่ทางกระทรวงการคลังได้กำหนดไว้