แต่ละคนมีหนทางในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน บางคนพบเจอแต่ความสำเร็จ พาตัวเอง และครอบครัว ก้าวหน้า บางคนดิ้นรนจนเจอหนทางในการประสบความสำเร็จ แต่บางคน ยังไม่ทันได้เรียนรู้สังคม ก็ต้องก้มหน้าเดินตามโชคชะตา ดิ้นรนสู้ชีวิต พาครอบครัวผ่านไปให้ได้ในแต่ละวัน
ทีมข่าวอีจัน ในจังหวัดกาญจนบุรี ได้เจอกับ ด.ญ.วัย 13 ปี ที่ต้องยืนหยัดช่วยตา ที่ล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ หารายได้เข้าครอบครัว โดยการร้อยพวงมาลัยพลาสติก ขาย เพื่อนำเงินมาเลี้ยงปากท้อง ของตนเองและน้องๆ อีก 6 ชีวิต ที่มีอายุเพียง 2 ขวบ จนถึงไม่เกิน 13 ขวบ
เด็กหญิงรัญชิดา รอดทุกข์ อายุ 13 ปี เธอเล่าให้ฟังว่า เธอเป็นพี่สาวคนโตในบ้านหลังนี้ ก่อนหน้านี้ครอบครัวมีรายได้หลักจากตา ที่ทำงานเป็น รปภ. จนกระทั่ง ตา ล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ โชคดี มีป้า มาช่วยดูแล ซึ่งป้าเอง ทำงานเป็นพนักงานอยู่ในตลาดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ช่วงนี้ก็ไม่มีรายได้เพราะต้องหยุดงาน จากโรคโควิด-19 ระบาด ก็เหลือเพียงรายได้จากพ่อแม่ ที่ไปทำงานก่อสร้างต่างจังหวัด เดือนละ 1,000 บาท และรายได้จากการร้อยพวงมาลัยจำนวน 25 บาทต่อ 100 พวงมาลัย
ซึ่ง 1 วัน จะร้อยได้ประมาณ 200 พวง
8 เม.ย.63 นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมทีมงาน ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวของเด็กทั้ง 7 คน โดยเอา ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องนุ่งห่ม พร้อมด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคและมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น และมีเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้ามาทำเรื่อง เพื่อจะจัดหาเงินสงเคราะห์ ช่วยเหลือเด็กในครอบครัวยากจน ให้กับเด็กทั้ง 7 คน รวมถึงประสานองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน เพื่อทำเรื่องขอเบี้ยคนพิการให้กับคุณตา คาดว่าน่าจะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กทั้ง 7 คนดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
จัน เป็นกำลังใจให้น้องๆทั้ง 7 คนนะคะ แม้วันนี้จะได้รับความช่วยเหลือ แต่อย่าทิ้งความขยันหมั่นเพียร และความกตัญญูที่น้องๆเคยทำมาตลอดนะคะ