เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเยียวยาผลกระทบในช่วงโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือโดยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้าไปลงทะเบียนที่เว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน เพื่อให้ระบบได้มีการตรวจสอบว่ามีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดหรือไม่ จากนั้นผู้ที่ลงทะเบียนแล้วผ่านเกณฑ์ก็จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ซึ่งจะเริ่มทยอยจ่ายในล็อตแรก 1.6 ล้านคน ภายในวันที่ 8-10 เมษายน 2563
- ย้ำ! คนไม่ผ่านเกณฑ์ #เราไม่ทิ้งกัน อุทธรณ์คำร้องไม่ได้
- เช็คเลย เราไม่ทิ้งกันโอนเงินเยียวยา 5,000 วันที่ 2 อีก 7.53 แสนคน
- #เราไม่ทิ้งกัน ไม่การันตี แจก 5 พันถึง 6 เดือน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด 19
นอกจากนี้ นายลวรณ ยังกล่าวถึงกลุ่มที่ได้รับเงินไปแล้วด้วยว่า จากที่ได้รับรายงานว่าหลังจากมีการแจกเงิน 5,000 บาท แล้วมีผู้ที่ไม่ควรจะได้รับสิทธิ์ แต่กลับได้รับสิทธิ์นั้น กระบวนการตรวจสอบก็จะเริ่มขึ้น โดยกระทรวงการคลังจะมีระบบตรวจทานซ้ำว่าอยู่ในเกณฑ์ได้รับเงินช่วยเหลือถูกต้องหรือไม่ ซึ่งจะมีการดำเนินการใน 2 ลักษณะ
1.ถ้าผู้ที่โพสต์ เป็นผู้ที่ไม่ได้รับเงินจริง โพสต์เพื่อสร้างความสับสน แต่ท่านไม่ได้เป็นคนที่รับเงินแต่กลับโพสต์ว่าได้เงิน กรณีนี้จะประสานส่งเรื่องไปที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม MDES พิจารณาดำเนินการว่าจะเข้าข่ายความผิดเรื่องอะไร
2.ถ้าสมมติว่าได้รับเงิน 5,000 แต่เป็นที่คลางแคลงว่าไม่สมควรจะได้แต่ทำไมได้ ทางกระทรวงมีระบบตรวจทานซ้ำว่าท่านอยู่ในเกณฑ์ได้รับเงินช่วยเหลือถูกต้องหรือไม่ ท่านได้เพราะหลักเกณฑ์อะไร จะทบทวนดูว่าหลักเกณฑ์ตรงนี้มันมีช่องโหว่ ช่องว่างตรงไหนหรือเปล่า และกลไกคือเรียกเงินคืนภายใน 90 วัน และระงับสิทธิ์ในเดือนที่ 2-3
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ แต่หากรับเงินไปแล้วแต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ มีดังนี้
-ผู้ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ แต่ลงทะเบียนและได้รับเงิน 5,000 บาทไปแล้ว จะต้องคืนภายใน 90 วัน
-หากไม่ดำเนินการตามข้อตกลงก็จะตัดสิทธิ์ที่จะให้เงินชดเชยในเดือนถัดๆไป (พ.ค.-มิ.ย.) ทันที
-กระทรวงการคลัง ส่งเรื่องให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
-หากไม่คืนเงิน 5,000 บาท รัฐอาจใช้สิทธิ์ในการที่จะดำเนินคดีทางแพ่งหรือทางอาญาต่อไป
-หากคืนเงิน 5,000 บาท ที่รับไปไม่มีความผิด
โดยยืนยันว่า ระบบคัดกรองผู้ได้รับสิทธิ์ ไม่มีปัญหา สามารถคัดกรองผู้ที่ควรได้รับเงินช่วยเหลือจริง แต่ขอให้เข้าใจว่า เนื่องจากระยะเวลาในการเตรียมมาตรการมีน้อย ทำให้ไม่สามารถวางระบบตรวจสอบเข้มงวดได้ เพราะจะใช้เวลามาก ทำให้คนได้รับเงินช่วยเหลือล่าช้า
อย่างไรก็ตาม การโอนเงินในกลุ่มที่ไม่มีปัญหา จะส่งเอสเอ็มเอสแจ้งและทยอยโอนเงินเข้าบัญชีตามปกติ ในรายที่มีปัญหาเลขบัญชีไม่ตรงจะมีปุ่มหน้าเว็บไซต์ให้แก้ไขเลขบัญชี เพื่อให้โอนเงินเข้าได้ ส่วนกลุ่มที่ไม่ผ่านเกณฑ์แน่นอนจะมีเอสเอ็มเอสแจ้ง และไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะผิดหลักเกณฑ์มาตรการ โดยธนาคารกรุงไทย จะเริ่มแจ้งผลในวันที่ 11-12 เม.ย.นี้