8 เมษายน 2563 มีรายงานว่า นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงนามในประกาศเรื่อง ปิดสถานที่หรือพื้นที่จำหน่ายสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งเกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มาอย่างต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงมีแนวโน้มแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง
- อู่ฮั่นยกเลิก ‘คำสั่งห้ามออกจากเมือง’ สิ้นสุดล็อกดาวน์
- อู่ฮั่นยกเลิกข้อบังคับห้ามเดินทางออกนอกเมืองแต่ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุม
- ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก 1,431,691 คน
ภาพจากอีจัน
ดังนั้น เพื่อเป็นการยกระดับมาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดจากโรคโควิด-19 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงโอกาสเสี่ยงในการติดต่อโรคและความจำเป็นของประชาชน ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ 2 (3) และข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มี.ค.2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 18/2563 เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2563 จึงมีคำสั่งให้สถานที่จำหน่ายสินค้าทั้งปลีกและส่ง ปิดพื้นที่หรือบริเวณ จำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด 
ภาพจากอีจัน
การดำเนินการตามคำสั่งนี้เป็นไปตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จึงไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาทางปกครองตามมาตรา 16 ของพระราชกำหนดดังกล่าว
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10-20 เมษายน 2563