(8 เมษายน 2563) เวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลเชิญพี่น้องสื่อมวลชน จ.สตูล ร่วมแถลงข่าวสรุปผลการตรวจหาเชื้อ เมื่อวานที่ผ่านมา (7 เม.ย. 63) มีกลุ่มคนไทยที่เดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรมดาวะห์ที่ประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 76 คน ได้แบ่งการกักตัวมาไว้ที่ จ.สตูล 26 คน
- กลุ่มคนไทยไปดาวะห์ที่อินโดนีเซีย 76 คน ถึงไทยแล้ว ส่งกักตัวทันที
- ผู้บำบัดยาเสพติดต้องปฏิบัติตามมาตรการ สบยช. เลี่ยงโควิด-19
- สหรัฐยอดติดเชื้อวันเดียวเพิ่มอีก 33,331 คน สะสมรวม 400,412 เสียชีวิตอีก 12,854 คน
ภาพจากอีจัน
ซึ่งได้ข้อสรุปแล้วว่า จากการส่งตรวจ 20 คน พบเชื้อ 15 คน อีก 5 คน ไม่พบ รออีก 5 วัน จะทำการตรวจหาเชื้อใหม่อีกครั้ง ส่วนอีก 6 คน นั้น ได้มีการคัดกรองจากหาดใหญ่ตั้งแต่วันเดินทางมาสตูล ไม่พบเชื้อทำให้ไม่จำเป็นต้องตรวจ แต่จะตรวจอีกครั้งหนึ่งในสัปดาห์หน้า
ภาพจากอีจัน
นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผวจ.สตูล เผยว่า ทางทีมงานได้มีการเตรียมการมาล่วงหน้าแล้วว่า หากเกิดตรวจสอบแล้วพบว่า มีพี่น้องประชาชนคนสตูล ติดเชื้อโควิด-19 ได้มีสถานที่ไว้คอยรองรับ โดยใช้มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา วิทยาเขตสตูล เป็นโรงพยาบาลสนามที่จะคอยรองรับ 
ภาพจากอีจัน
แต่เมื่อมีกลุ่มพี่น้องกลับจากอินโดนีเซีย หรือกลุ่มดาวะห์ เดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.สตูล จำนวน 26 คน และได้ตรวจคัดกรองจากสนามบินหาดใหญ่แล้ว ทั้ง 26 คน พบว่า 6 คน ไม่มีเชื้อ และเมื่อวานได้มีการตรวจ คนที่คาดว่าจะมีเชื้อ 20 คน ผลปรากฏว่า 15 คน พบเชื้อ อีก 5 คน ไม่พบเชื้อ และใน 15 คน นั้น มี อาการน่าเป็นห่วงหนึ่งคน อายุ 74 ปี ที่แพทย์ต้องเฝ้าระวัง เป็นอย่างมาก และได้มีการประสานทางโรงพยาบาลสตูลเพื่อขอใช้ห้องไอซียู หากแพทย์บอกว่า จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายมาพักที่ห้องไอซียู ขอให้พี่น้องทุกคน ช่วยกันเฝ้าระวังตัวเองให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดบ้านเรือน การสวมใส่แมส ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และไม่รวมกลุ่มกัน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนบุคคลที่เข้า-ออกในพื้นที่ จ.สตูล นั้น ขอให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากไม่จำเป็นไม่ควรที่จะเดินทางเข้าออกในพื้นที่ จ.สตูล ในช่วงนี้
ภาพจากอีจัน
ก่อนหน้านี้ จ.สตูล ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เมื่อมีกลุ่มดาวะห์กลับมา ทำให้ จ.สตูล มีจำนวนผู้ป่วยในครั้งเดียวถึง 15 คน ซึ่งผลการคัดกรองดังกล่าวต้องรอแถลงจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันนี้ (8 เม.ย.)