ญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รับมือโควิด-19 ขอความร่วมมือคนไทยในญี่ปุ่น อยู่บ้านให้มากที่สุด!

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ขอความร่วมมือคนไทยในญี่ปุ่น ปฏิบัติตามมาตรการในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น

(7 เม.ย.63) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ออกประกาศขอความร่วมมือ คนไทยในณี่ปุ่น ในช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรายจังหวัด โดยระบุข้อความว่า

อนุสนธิประกาศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ลงวันที่ 3 เมษายน 2563 เรื่องมาตรการการบริหารจัดการ การเดินทางกลับประเทศไทยของคนไทยในต่างประเทศนั้น

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 7 เมษายน 2563 อาเบะ ชินโซ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในญี่ปุ่น สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในญี่ปุ่นที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก หลายกรณีไม่ทราบเส้นทางการติดเชื้อ และอาจรุนแรงเกินกว่าที่ระบบสาธารณสุขของญี่ปุ่นจะรับมือได้

สถานเอกอัครราชทูต ขอแจ้งรายละเอียดของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินข้างต้นดังนี้

1. พื้นที่และช่วงเวลาที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัดได้แก่ กรุงโตเกียว จังหวัดคานากาวะ จังหวัดไซตามะ จังหวัดชิบะ จังหวัดโอซาก้า จังหวัดเฮียวโกะ และจังหวัดฟูกูโอกะ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2563 เวลา 00.00 น.ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2563

2. วัตถุประสงค์

เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและป้องกันประชาชนเนื่องจากผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากลดการพบปะ/การสัมผัสระหว่างประชาชน และหลีกเลี่ยง 3CS คือ Closed spaces (พื้นที่ปิด) Crowded places (พื้นที่แออัด) และ Close-contact (มีการสัมผัสใกล้ชิด) ได้ร้อยละ 70 ถึง 80 ภายใน 2 สัปดาห์ จะทำให้อัตราการติดเชื้อมีแนวโน้มลดลง

3. สรุปมาตรการภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน
3.1 สถานประกอบการที่เปิดทำการได้ตามปกติ
โรงพยาบาล ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร (ขอให้ลดเวลาให้บริการ) ธนาคาร สถาบันการเงิน บริการโลจิสติกส์ สถานดูแลผู้สูงอายุ บริการขนส่งมวลชน การไฟฟ้า แก๊ส โทรคมนาคม บริการเก็บขยะ
3.2 สถาบันการศึกษา ขอให้หยุดทำการเรียนการสอนที่สถาบันการศึกษา และสามารถสอนแบบออนไลน์ได้
3.3 สถานพยาบาล เปิดทำการได้ตามปกติและเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อาจเพิ่มการตรวจอาการ/ปรึกษาแพทย์ทางโทรศัพท์/ออนไลน์
3.4 สถานประกอบการที่ต้องหยุดให้บริการ ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ คาราโอเกะ ไนต์คลับ บาร์
3.5 การเปิดทำการของบริษัทเอกชนทั่วไป ขอให้ทำงานจากที่บ้าน (telework) ให้ได้มากที่สุด บริษัทเอกชนที่สามารถ telework ได้ ขอให้สลับกันมาทำงาน และลดการทำงานให้ได้ ร้อยละ 70
3.6 การใช้ชีวิตของประชาชน ประชาชนสามารถออกนอกบ้านได้ ในกรณีที่จำเป็นสามารถเดินเล่นวิ่ง ออกกำลังกายได้ในที่ที่ไม่เข้าข่าย 3CS และให้สวมหน้ากากตลอดเวลาที่ออกจากบ้าน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอยู่กับที่ให้มากที่สุด ไม่เดินทางไปยังจังหวัดอื่น
3.7 การให้อำนาจแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวยังให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในการออกมาตรการที่เหมาะสมสำหรับแต่ละพื้นที่ ซึ่งรวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องอุปโภคบริโภคจากภาคเอกชน และใช้ที่ดินของภาคเอกชนได้โดยไม่ต้องขออนุญาต

4. สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอความร่วมมือคนไทยในญี่ปุ่น ปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางที่ทางการญี่ปุ่นขอความร่วมมือ ดังนี้
4.1 หลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน โดยทำงานจากที่บ้านให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น เช่น เมื่อไปซื้ออาหารและยา หรือไปโรงพยาบาล
4.2 หากจำเป็น ต้องออกนอกบ้านขอให้หลีกเลี่ยงพื้นที่เข้าข่าย 3CS คือ Closed spaces (พื้นที่ปิด) Crowded places (พื้นที่แออัด) และ Close-contact (มีการสัมผัสใกล้ชิด)
4.3 ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆที่รัฐบาลกลางญี่ปุ่นและรัฐบาลท้องถิ่นร้องขอ

5.การตามข่าวสาร ขอให้คนไทยในญี่ปุ่นติดตามข่าวสารตามช่องทางต่างๆ

6. การติดต่อสถานเอกอัครราชทูตในระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงโตเกียว สถานเอกอัครราชทูตจะให้บริการกรณีที่มีการนัดหมายก่อนเป็นหลัก

จึงประกาศเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน”

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน