รวบแม่ค้าออนไลน์ หลอกขายแมสก์ช่วงวิกฤติโควิด-19

กองปราบบุกรวบ แม่ค้าออนไลน์หนีคดีฉ้อโกง ซ้ำกลับมาหลอกขายหน้ากากอนามัยผ่านเฟซบุ๊ก ช่วงวิกฤติโควิด-19 อีก!

วันนี้ 4 เม.ย. 2563 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.สายธารา (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ จ.71/2563 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2563 ความผิดฐาน “ฉ้อโกง”


การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่อง ช่วงประมาณปลายปี 2562 น.ส.กชพร (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายได้ติดต่อกับ น.ส.สายธารา (ผู้ต้องหา) ผ่านช่องทางไลน์ชื่อว่า “5 เปรี้ยว โกงเงิน” เพื่อซื้อเสื้อจำนวนหลายรายการ โดยตกลงซื้อขายเป็นเงินจำนวน 2,250 บาท
ต่อมา น.ส.กชพร จึงได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวไปยังบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา แต่ภายหลังจากที่โอนเงินจำนวนดังกล่าวแล้ว น.ส.สายธารา ไม่ได้จัดส่งสินค้าให้กับผู้เสียหายและพูดจาบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนกระทั่งผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกับผู้ต้องหาได้อีก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หางดง และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุญาตศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาในเวลาต่อมา

ภาพจากอีจัน

จากการสืบสวนทราบว่า ต่อมาผู้ต้องหาได้อาศัยโอกาสในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ประกาศหลอกขายหน้ากากอนามัย ผ่านเฟสบุ๊ค ชื่อ “Sour Zuz” โดยถ่ายภาพว่าตนเองมีหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมาก ขายในราคากล่องละ 550 บาท และได้มี น.ส.พรทวี (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายหลงเชื่อและซื้อหน้ากากอนามัย จำนวน 50 กล่อง ในราคา 29,500 บาท กับผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาให้ น.ส.พรทวีโอนเงินมัดจำค่าสินค้าจำนวน 13,750 บาท ให้กับผู้ต้องหาก่อน แต่ภายหลังจากที่โอนเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว น.ส.พรทวี ได้ติดต่อทวงถามถึงหน้ากากอนามัย กลับได้รับการบ่ายเบี่ยง ผู้ต้องหาไม่ยอมส่งหน้ากากอนามัยให้ และไม่โอนเงินคืนให้กับผู้เสียหาย

ภาพจากอีจัน

ต่อมา ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า น.ส.สายธาราฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ จ.71/2563 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2563 ความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ย่านบางแค กรุงเทพฯ และทราบว่า น.ส.สายธารา ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการกระทำผิดเกี่ยวกับการหลอกขายของทางออนไลน์ ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อ และได้รับความเสียหายจากการกระทำของผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก และเนื่องด้วยผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกขายหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นการซ้ำเติมสังคมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – ผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งการให้เร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาให้ได้โดยเร็ว

ภาพจากอีจัน

จนกระทั่ง วันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ เวลาประมาณ 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ที่ผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ เมื่อไปถึงบ้านดังกล่าว พบนายอำนาจฯ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนพร้อมแสดงหมายค้นให้กับนายอำนาจฯ ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ น.ส.สายธาราฯ ผู้ต้องหาอยู่บริเวณห้องนอนชั้น 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาตรวจสอบและให้อ่านดูจนเป็นที่พอใจ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพจากอีจัน

จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
และยังพบว่า บ้านที่ผู้ต้องหาพักอาศัย มีพฤติการณ์มั่วสุมยาเสพติด ตำรวจจึงได้ทำการตรวจปัสสาวะบุคคลภายในบ้าน พบปัสสาวะมีผลเป็นบวก(มีสารเสพติด) จำนวน 3 ราย คือ นายอำนาจ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี, นายสิริวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี และ น.ส.ชลธิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย” จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป