จ.สตูล ประกาศ 3-30 เม.ย. 63 ล็อคดาวน์ ห้ามเข้า-ออก เขตจังหวัด

จ.สตูล ประกาศสั่ง ล็อคดาวน์ ห้ามเข้า-ออก เขตจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 3-30 เม.ย. 63 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

วันนี้ (2 เม.ย. 63) จ.สตูล ออกประกาศ เรื่องมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดโคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเป็นการประกาศสั่งห้ามสัญจรไป-มา ข้ามเขต จ.สตูล เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในจังหวัดเป็นศูนย์ หากยังมีการสัญจรอยู่อาจจะทำให้มีผู้ติดเชื้อได้ จ.สตูล จึงได้ออกประกาศการปฏิบัติตามคำสั่งและบทลงโทษ โดยมีข้อความว่า

โดยสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างรุนแรงในประเทศไทย และจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดสตูล มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้ออยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้จังหวัดสตูล ยังไม่มีผู้ป่วย แต่หากยังมีการเดินทางข้ามเขตจังหวัดโดยไม่มีความจำเป็น จะทำให้การแพร่เชื้อของโรคแผ่ขยาย ลุกลาม เพิ่มมากยิ่งขึ้น อันจะนำมาซึ่งความเสียหาย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชนอย่างร้ายแรง

ภาพจากอีจัน

ดังนั้น เพื่อเป็นการระงับยับยั้งความเสียหายร้ายแรงที่จะเกิดแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 2 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ

พ.ศ. 2558 และข้อ 7 (3) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสตูล ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 83 เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 จึงมีคำสั่งห้ามประชาชนเดินทาง เข้า -ออก ข้ามเขตพื้นที่จังหวัดสตูล เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การทำให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค การป้องกันโรค การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภค-บริโภค อุปกรณ์เครื่องมือเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ยานพาหนะเพื่อการกู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาล และยานพาหนะของทางราชการ หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อเป็นกรณีไป ทั้งนี้ ผู้ได้รับการยกวันต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ตามที่ทางราชการกำหนด

หากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหรือเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2563 จนถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ 2563