นายกฯ แถลง 6 มาตรการต้องปฏิบัติในช่วง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

บิ๊กตู่สั่งเอาจริง! เจอร้านค้าขายโก่งราคา แจ้งได้ที่ด่านจุดตรวจสกัดใกล้บ้านทุกด่าน รวมทั้งเงินกู้นอกระบบ เป็นห่วงพระ แนะประกอบพิธีทางศาสนาให้เหมาะสมกับสถานการณ์

วันนี้ (31 มี.ค. 63) พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ถึงหลายประเด็นต่างๆในการปฏิบัติตามมาตรการ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดังนี้

1. ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลา 7 วันแล้ว ที่คน กทม. เดินทางกลับภูมิลำเนา สถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้น วันนี้ก็อยากจะกราบเรียนว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้ติดเชื้อมากขึ้น อันนี้ก็เป็นมาตรการหนึ่งที่อาจจะมองให้เห็นอีกแง่มุมว่า เราได้การตรวจสอบคัดกรองได้มากยิ่งขึ้น ประชาชนที่รู้ว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็เข้ามาพบแพทย์มากขึ้นและทำให้มีโอกาสตรวจพบได้มากยิ่งขึ้น นี่เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องเข้าใจตรงนี้ ใครที่ไม่ได้เข้าไปในกลุ่มเสี่ยง ใครที่ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ที่ทุกคนดูแลตัวเองดีแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปตรวจชื้อ ตรงนี้ขอให้เข้าใจด้วย เพราะเราจำเป็นต้องมีมาตรการในการควบคุมค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้มีเพียงพอสำหรับผู้ที่ติดเชื้อจริงๆ หรือผู้ที่มีความเสี่ยงจริงๆ ในส่วนของการปรับมาตรการต่างๆเหล่านี้ ได้ให้ทางกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรับผิดชอบตามกฎหมายกับกระทรวงอื่นๆที่เกี่ยวข้องทุกกระทรวง ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้มีมาตรการ มีอำนาจในการพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการห้ามประชาชนเข้าออกในพื้นที่ ในจังหวัดที่มีตัวเลขติดเชื้อเพิ่มขึ้น หรือแม้แต่ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดมาล่วงหน้าแล้ว ใช่วิธีการปิดหลายๆสถานที่ด้วยกัน ปิดร้านค้า ห้ามขายสุรา ห้ามเล่นกีฬา ในเรื่องของการพนันห้ามเด็ดขาด จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะหนีไปเล่นที่ไหนก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหาร ได้มีการตรวจสอบเรื่องเหล่านี้อย่างเต็มที่

ภาพจากอีจัน
2. กรณีสินค้าที่อาจจะมีราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากมีหลายร้านค้าหรือหลายผู้ประกอบการที่ฉวยโอกาส ขอให้ประชาชนนั้นสามารถแจ้งได้ เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ตามด่านจุดตรวจสกัดทั้งหมดสามารถรับเรื่องร้องเรียนได้ และเข้าตรวจสอบได้โดยทันที เพราะมีอำนาจตามกฎหมายที่ให้เพิ่มไปแล้ว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตรงนี้รวมความไปถึงหนี้นอกระบบ ตอนนี้ก็มีการแพร่ระบาดมากขึ้น อาจจะมองในแง่ว่าวันนี้ประชาชนเดือดร้อนมาก ก็ต้องปล่อยกู้มากๆ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้จะทำทีละขั้นทีละตอน คือ ให้ประชาชนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตามด่านจุดตรวจสกัดทั้งหมด ที่มีอยู่ในพื้นที่ รับเรื่องมา แล้วจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ เรียกมาดำเนินคดี ทำการไกล่เกลี่ย เช่น ต้องขอร้องกันว่าในช่วงนี้ อาจจะยังไม่ผ่อนชำระ แล้วก็ให้ใช้ดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด ไม่อย่างนั้นต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกประการ อย่างไม่ละเว้น

3. เรื่องการเดินทางออกนอกจังหวัด นอกเขต หรือแม้กระทั่งในกรุงเทพมหานคร หลายคนเริ่มเป็นห่วงอยากให้มีการหยุดมีการคุมเข้มมาตรการต่างๆ เราต้องดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลายอย่างด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการจับจ่ายสินค้า ซื้อสินค้า ซึ่งผู้บริโภคจะต้องระมัดระวังตัวของตัวเอง รัฐบาลก็เน้นในเรื่องของการให้บริการแกร็บ ให้บริการของ LINE แมน จะต้องมีการตรวจสอบเชื้อกับผู้ให้บริการเหล่านี้ด้วย และอย่าไปแออัดในบริเวณร้านค้าที่ต้องไปรับของไปส่งด้วย ซึ่งอาจจะเป็นการแพร่เชื้อไปสู่ผู้บริโภคด้วย ทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเองและรับผิดชอบผู้อื่นด้วยเสมอ ในส่วนของการเดินทาง วันนี้ให้ทางกระทรวงคมนาคม พิจารณาในกรณีที่ หากยังมีการเคลื่อนย้ายเป็นจำนวนมากอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเราก็เข้าใจถึงความสะดวก แต่บางคนก็ใช้โดยไม่จำเป็น เพราะฉะนั้นให้ดูการให้บริการขนส่งต่างๆ ของภาครัฐนั้นจะทำอย่างไร จำเป็นต้องลดจำนวนลงหรือไม่ ในการให้บริการกี่เที่ยวต่อวัน ในเมื่อให้ทำกันเองแล้วยังไม่เรียบร้อย ยังไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้ ต่อไปต้องเจอสถานการณ์นี้อีก ในการลดการให้บริการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถไฟ รถโดยสารสาธารณะ ก็จำเป็นต้องลดเที่ยวในการบริการจนเรียบร้อย ถ้าไม่เรียบร้อยอีกก็จะต้องหยุดให้บริการทั้งหมด เพื่อลดการเคลื่อนย้ายไปมาหรือแพร่เชื้อ

4. เรื่องคนไทยในต่างแดน วันนี้เราได้มีการควบคุมให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนต่างประเทศ ที่เข้ามาในประเทศไทยวันนี้มีเฉพาะในส่วนที่มีใบอนุญาตทำงาน และมีการทำงานในประเทศไทยอยู่แล้ว ในส่วนอื่นๆนั้นถ้าหากว่าเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศสุ่มเสี่ยง ประเทศที่เข้ามาแล้วติดจำนวนมาก ในขณะนี้ได้มีการนำเข้าสถานกักกันของรัฐแล้ว ทุกคนจะต้องถูกเข้าควบคุม 14 วัน ก่อนที่จะลงไปสู่ภูมิลำเนาต่างๆ มีทั้งการกักตัวอยู่บ้าน ซึ่งทุกคนจะต้องถูกกระทรวงสาธารณสุขบันทึกข้อมูล ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในการติดตามผ่านแอปพลิเคชั่น ที่แสดงให้เห็นถึงถิ่นที่อยู่อาศัย

5. เป็นห่วงในเรื่องของการทำบุญ ศาสนาของเราเป็นสิ่งที่คู่กับสังคมไทยมานาน ได้รับความเชื่อมั่นเชื่อถือมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสนาพุทธ เพราะฉะนั้นเรื่องของวัด ก็เป็นห่วงพระ ได้เน้นย้ำไปแล้วในเรื่องของมาตรการการทำบุญ ในการสวดมนต์ต่างๆ ต้องมีการแยก การกำหนดจำนวน มีการกำหนดพิธีการในการทำบุญต่างๆ ให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใส่บาตร โรงทาน รู้ว่าทุกคนมีเจตนาที่ดี แต่เราจำเป็นต้องคิด ช่วยกันคิด เพราะนายกฯ จะไปลงรายละเอียดมากๆก็คงไม่ไหว เพราะฉะนั้นขอให้ทุกหน่วยราชการ ทุกหน่วยงาน ภาคประชาชน ภาคสังคม ธุรกิจเอกชน ช่วยกันหามาตรการของตัวเองออกมา เพื่อรองรับนโยบายหลักของราชการไปด้วย

6. วันนี้มีข่าวออกมาในเรื่องของการปลดล็อคความเร็วรถในถนนสี่เลน ข่าวที่ออกไปนั้นเร็วเกินไป ในส่วนของทางปฏิบัติ กระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการปลอดภัยทางถนน จำเป็นต้องทำป้ายทำอะไรต่างๆให้ชัดเจนขึ้น ว่าช่วงใดที่ใช้ความเร็ว 120 ได้บ้าง ตรงนี้ขอให้เชื่อฟังด้วย อีกส่วนหนึ่งก็คือคนที่ขับรถใหม่ มือใหม่ ที่มักจะเผลอไปเลนขวา ทำให้มีผลกระทบในเรื่องการจราจรด้วย ถ้าถนนรถไม่ติดก็ใช้มาตรการนี้ได้ แต่ถ้ารถติดรถก็วิ่งไม่ได้ ไม่ว่าจะ 100 หรือ 120 ก็แล้วแต่ ต้องระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัยบนถนนด้วย

ภาพจากอีจัน

ทั้งนี้ การพิจารณาการประเมินผล มีการประเมินผลการทำงานทุกสัปดาห์ในการประชุมครม. และการประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ทั้งอนุกรรมการ ทั้งกรรมการโควิด-19 นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำตรงนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงมีการทบทวนทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ในส่วนของมาตรการ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อำนาจตามกฎหมายจะใช้ได้ 3 เดือน วันนี้ให้ประเมินหนึ่งเดือนแรกก่อน ถ้าจำเป็นก็ต่อไปเดือนที่สอง ต่อไปเดือนที่สาม มาตรการจะต้องเข้มข้นขึ้นตามลำดับ เพราะฉะนั้นยังไม่มีแนวโน้มที่จะยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน เว้นแต่ว่าให้หน่วยงานไปพิจารณาว่าอะไรที่ทำแล้วได้ผลและดีขึ้น อาจจะมีการผ่อนผันหรืออย่างไรก็ว่ากันไป ส่วนไหนยังไม่ดีขึ้นก็ให้เข้มงวดมากขึ้น