เคอรี่ฯ แจง 30 มี.ค.-1 เม.ย. 63 ปิดสาขานิคมลำพูนชั่วคราว หลังพบพนักงานติดเชื้อ

เคอรี่ เอ็กซ์เพลส ชี้แจง 30 มี.ค.-1 เม.ย. 63 ปิดสาขานิคมลำพูนชั่วคราว หลังพบพนักงานติดเชื้อจากครอบครัว

วันนี้ (30 มี.ค. 63) บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประกาศทางเพจ “Kerry Express Thailand” ว่า ปิดสาขานิคมลำพูน เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม – วันพุธที่ 1 เมษายน 2563 เนื่องจากพบว่าพนักงานในสาขาดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 โดยมีเอกสารชี้แจงดังนี้

ภาพจากอีจัน
ขอแจ้งให้ทราบว่า พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ เคอรี่เอ็กซ์เพรส สาขา นิคมลำพูน ตั้งอยู่บนถนนศรีบุญยืนหนองเป็ด จ.ลำพูน ซึ่งเป็นสาขาขนาดเล็ก (1 คูหา จำนวน 2 เคาน์เตอร์) ได้เข้ารับการตรวจและยืนยันจากแพทย์ ว่า ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 1 ราย โดยเป็นการได้รับเชื้อจากบุคคลใกล้ชิดในครอบครัว ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมไวรัสโควิด-19 โดยการประสานงานกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และส่งตัวพนักงานคนดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการดูแลรักษาและควบคุมโรคจากสถานพยาบาลโดยทันที

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของพนักงานและผู้ที่มีส่วนกี่ยวข้องทุกคน บริษัทฯ ได้ให้พนักงานทุกภาคส่วนที่ได้ปฏิบัติงาน ณ เคอรี่ เอ็กซ์พรส สาขานิคมลำพูน หยุดงานเป็นวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าระวังอาการ พร้อมทั้งได้มีการติดตาม และรายงานสุขภาพอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ยังไม่พบว่าผู้ที่ทำงานติดต่อใกล้ชิดกับพนักงานดังกล่าวมีการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการอย่างคร่งครัด โดยจัดให้มีการปิดสาขา และบริเวณโดยรอบ ที่พนักงานดังกล่าวได้เข้าไปปฏิบัติงาน เป็นเวลา 3 วัน เพื่อทำการฆ่าเชื้อโรค และทำความสะอาดทันที บริษัทฯ ขอยืนยันในการดำเนินงานโดยคำนึงถึงสวัสติภาพ และความปลอดภัยของลูกค้า และพนักงานมาเป็นอันดับหนึ่ง นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการจัดทำรายงานเสนอเพื่ออัพเดทสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศ และภายในบริษัทฯ ทุกวัน เพื่อความโปร่งใส และตรงไปตรงมา สามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารของทางบริษัท

ภาพจากอีจัน

ทั้งนี้ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ยังมีมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 คือ

– ทางบริษัทฯ มีการตั้งจุดตรวจคัดกรองและวัดอุณหภูมิร่างกายพนักงานก่อนเข้าสถานที่ปฏิบัติงานทุกครั้ง หากพบพนักงานมีอุณหภูมิร่างกายสูง หรือมีอาการเข้าข่ายเป็นโรคหวัด ให้ไปพบแพทย์ทันที และให้หยุดปฏิบัติงานทันที 14 วันเพื่อความปลอดภัยมีจุดตั้งเจลล้างมือและหน้ากากอนามัย พร้อมทั้งทำความสะอาดในสถานที่ปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ
– มีการฉีดพ่นแอลกอฮอลล์ และน้ำยาฆ่าเชื้อบนกล่องสินค้าและในศูนย์กระจายสินค้าพนักงานคัดแยกสินค้าทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและใส่ถุงมือขณะทำงานมีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในบริเวณคลังสินค้าอย่างต่อเนื่องไม่อนุมัติหรืออนุญาตให้พนักงานลาเพื่อเดินทางหรือแวะผ่าน (Transit) ประเทศกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเฝ้าระวังรวมทั้งขอความร่วมมืองดเดินทางทุกชนิด
– พนักงานที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเฝ้าระวังให้พนักงานแจ้งผู้บังคับบัญชาเพื่อปฏิบัติงานที่บ้าน เป็นเวลา 14 วัน ระหว่างการปฏิบัติงานที่บ้าน หากมีอาการป่วยให้รีบพบแพทย์และแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ
– ยกเลิกการประชุมและกิจกรรมทางสังคมทุกชนิด