ดีอีเอส ลุยต่อยอดแอปฯ ติดตามคนกลับภูมิลำเนา สู้โควิด-19

คนเดินทางฟังทางนี้! ดีอีเอส ต่อยอดแอปฯ ติดตามคนกลับภูมิลำเนา สู้ภัยโควิด-19 บุรีรัมย์นำร่องจังหวัดแรก

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอีเอสได้ต่อยอดใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชั่น AOT Airports ที่ร่วมกับบริษัทท่าอากาศยานไทยฯ ใช้ติดตามตัวคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศ โดยได้ปรับปรุงให้ใช้งานสะดวกขึ้น เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยมอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ใช้ติดตามตัวประชาชนที่เดินทางกลับจาก กทม. และปริมณฑล ไปยังภูมิลำเนาของตนเอง หลังจากที่กระทรวงมหาดไทยได้ออกคำสั่งให้ทุกจังหวัดลงไปสำรวจข้อมูลประชาชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนหน้านี้ ช่วยให้การกักกันตัวเอง มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ซึ่งในขณะนี้ได้ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้นำแอปพลิเคชั่นนี้ไปใช้งานแล้ว เริ่มนำร่องที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นแห่งแรก โดยมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปพบกับบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่กลับมาจาก กทม. ถึงที่บ้าน และให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นดังกล่าว จากนั้นระบบจะแจ้งเตือน 3 ครั้งภายใน 12 ชม. เพื่อให้บุคคลนั้นระบุสถานที่กักกันตัวเอง

อ่านข่าวเก่า

ภาพจากอีจัน
เมื่อระบุสถานที่กักกันตัวเองแล้ว ผู้ใช้จะต้องกักตัวเองอยู่ในพื้นที่ 14 วัน และทุกวันต้องรายงานตัวผ่านระบบ ด้วยการถ่ายรูป 3 เวลา คือ

เวลา 10.30 น.
เวลา 14.30 น.
เวลา 18.00 น.

เจ้าหน้าที่จะเห็นสัญลักษณ์สีเขียวว่าได้ดำเนินการแล้ว ถ้าไม่ทำตามกำหนด ระบบจะแจ้งเตือนผู้ใช้ทุกชั่วโมง

ภาพจากอีจัน
หากผู้ใช้ออกจากสถานที่กักกันเกิน 50 เมตร จะปรากฏสัญลักษณ์สีส้ม ผู้ใช้ไม่รายงานตัว สัญลักษณ์จะเป็นสีแดง ผู้ใช้ปิดแอปฯ สัญลักษณ์จะเป็นสีเทา ทำให้เจ้าหน้าที่รู้ข้อมูลและลงไปตามหาตัวในพื้นที่ได้ทันที

ทั้งนี้ แอปพลิเคชั่นดังกล่าวมีลักษณะเป็นแผนที่ทั้งประเทศ สามารถเข้าถึงข้อมูลแต่ละจังหวัดจนถึงระดับพื้นที่ได้ โดยแต่ละพื้นที่ยังระบุชื่อและสถานะของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยงได้อย่างละเอียด จึงช่วยให้ส่วนกลาง รวมไปถึงผู้ว่าฯ นายอำเภอ ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ติดตามตัวและรู้ข้อมูลของผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปประยุกต์ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองที่ประจำจุดตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด ใช้ในการตรวจสอบว่าบุคคลกลุ่มเสี่ยงได้รายงานตัวและกักกันตัวเองครบ 14 วันแล้ว ตามมาตรฐานการควบคุมโรคแล้วหรือไม่ได้อีกด้วย