(24 มี.ค. 63) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ประกาศมาตรการที่มุ่งจำกัดการติดต่อทางสังคมในสหราชอาณาจักร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
“ผมจะขอให้คำแนะนำง่ายๆ แก่ชาวอังกฤษทุกคน นั่นคือคุณต้องอยู่บ้าน” จอห์นสันกล่าว
พร้อมเสริมว่าเริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 23 มี.ค.63 เป็นต้นไป ประชาชนในสหราชอาณาจักรจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านต่อเมื่อ “มีจุดประสงค์ที่จำเป็นเท่านั้น” ซึ่งรวมไปถึงการซื้อของใช้ ความจำเป็นทางการแพทย์ การออกกำลังกาย 1 รูปแบบต่อวัน และการเดินทางไปหรือกลับจากที่ทำงานเมื่อจำเป็น โดยตำรวจจะมีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายต่างๆ รวมถึงปรับเงินผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง และสลายการชุมนุม
ขณะเดียวกันร้านค้าทุกแห่งที่จำหน่ายสินค้าที่ไม่จำเป็น เช่น เสื้อผ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า จะถูกสั่งปิด เช่นเดียวกับห้องสมุด สนามเด็กเล่น และโรงยิมกลางแจ้ง ขณะที่กิจกรรมทางสังคมทั้งหมด หรือแม้แต่การรวมตัวกันในที่สาธารณะมากกว่า 2 คนจะถูกสั่งห้ามเช่นกัน ยกเว้นเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน รัฐบาลระบุว่า มาตรการใหม่ที่เข้มงวดยิ่งขึ้นจะมีผลบังคับใช้อย่างน้อย 3 สัปดาห์
การประกาศครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังนายกรัฐมนตรีประกาศเตือนว่ารัฐบาลจำเป็นต้องยกระดับมาตรการ หากประชาชนไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ
อย่างไรก็ตามรัฐบาลเคย ยกระดับมาตรการโดยการประกาศปิดคาเฟ่ บาร์ ผับ และร้านอาหาร ไปแล้วเมื่อวันที่ 20 มี.ค.63 แต่ยังมีประชาชนฝ่าฝืนออกมาเดินเล่นในสวนสาธารณะ และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จำนวนมาก ทำให้เกิดความกังวลว่าประชาชนส่วนใหญ่อาจเพิกเฉยต่อคำแนะนำของรัฐบาลในการหลีกเลี่ยงการติดต่อทางสังคม
ขณะนี้ สหราชอาณาจักรพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยนับจนถึงเช้าวันจันทร์ (23 มี.ค.63) มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผลรวมแล้ว 6,650 ราย เพิ่มขึ้น 967 รายในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้า ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 335 ราย
“หากไม่มีความพยายามจากทุกคนในชาติที่จะหยุดยั้งการแพร่กระจายของไวรัสนี้ อาจจะนำไปสู่ช่วงเวลาที่ไม่มีระบบสาธารณสุขใดในโลกสามารถรับมือไหว เพราะอาจจะไม่มีเครื่องช่วยหายใจ เตียงผู้ป่วยหนัก แพทย์ และพยาบาล รองรับเพียงพอ” จอห์นสันกล่าว
- พบชายอังกฤษติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีกราย
- อัพเดตแบบเรียลไทม์ คนติดเชื้อโควิดทั่วโลก 381,649 คน ตายกว่า 16,558 ราย