เปิดหัวใจอดีตนักโทษประหาร สู่แชมป์มวยโลก

เพราะอดีตไม่ได้การันตีอนาคต! ล้วงเบื้องหลัง อดีตนักโทษที่สังคมไม่อยากยอมรับ กับการก้าวผ่านมาเป็นแชมป์มวยโลกและครูมวยที่มีคนเคารพ

เพราะชีวิตคนเราไม่ได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกเสมอไป ความผิดพลาดจึงเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งสำคัญคือเราจะลุกและเปลี่ยนตอนไหน ความดีมันทำยากแต่ผลของมันหอมหวานเสมอ
นี่คือสิ่งที่จันไปสัมผัสจากอดีตนักโทษชาย “พี่เอ็ม เฉลิมพร สวัสดิ์สุข” หนุ่มร่างใหญ่ ตัวลาย เสียงดัง ขึงขัง หากใครไม่รู้จักและลองเข้ามาคุยแบบจัน ก็คงไม่กล้าเข้าใกล้เข้าแน่ๆ

ภาพจากอีจัน
“คนที่คิดแบบนั้นไม่ผิด เขามีสิทธิ์คิด เพราะภายนอกผมเป็นแบบนี้ คิดดูสิครับ ใครมองผมต้องมองตั้งแต่หัวจรดเท้า เขากลัวผมทั้งนั้น ” ประโยคนี้ คือสิ่งที่บอกจันกระจ่างว่า พี่เอ็มเจออะไรจากสังคมมาบ้างเพราะคำว่าอดีตนักโทษกับคำตัดสินของสังคม
ภาพจากอีจัน
ย้อนไปเมื่อปี 2544 พี่เอ็มเคยก้าวพลาดเข้าไปคุกคลีกับวงการยาเสพติด ทำให้เขาต้องโทษคดีฆ่าคนตายและอำพรางซ่อนเร้นศพ ผลของการกระทำครั้งนั้นให้เขาถูกกฎหมายตัดสินประหารชีวิต แต่เขาสารภาพโทษเลยเหลือโทษติดคุกตลอดชีวิต ตลอดเลาที่เขาใช้ชีวิตหลังกำแพงสูง เพราะจิตใต้สำนึกที่รู้ว่ายังไงก็ไม่ได้ออกจากคุก เขาเลยเดินหน้าลุยเต็มที่เกเรเต็มที่ จากนักโทษชั้นเลว ต้องถูกลดชั้นเป็นชั้นเลวมาก ใครมีปัญหาใครรังแกใคร พี่เอ็มพร้อมสู้เพื่อความถูกต้อง แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งจุดที่เพราะคำของแม่ ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมแม่บอกเขาเสมอว่า ไม่อยากออกมาหาแม่บ้างเหรอ ยังไม่ได้บวชให้แม่เลยนะ ก่อนที่จะพูดประโยคเปลี่ยนความคิดของพี่เอ็มว่า “แม้ลูกจะเป็นยังไง ก็คือลูกแม่” ประจวบกันเวลานั้น ผู้คุมที่ดูแลเข้ามาพูดกับพี่เอ็มว่า “อยากเก่งแต่ในนี้เหรอ ไม่อยากออกไปชกมวยข้างนอกบ้างเหรอ” การชักชวนของผู้คุมและคำพูดของแม่ครั้งนั้น เป็นแรงผลักดันให้ขาใหญ่ที่เก่งอยู่ในคุก ก้าวออกมาเป็นแชมป์มวยระดับโลก เขาหมั่นฝึกฝนตระเวนขึ้นชกจนมีโอกาสออกมาชกข้างนอก และในที่สุดเขาก็ทำให้ทุกคนเห็นว่าเขาทำได้ พี่เอ็มได้ลดโทษเป็นกรณีพิเศษและในที่สุดเขาก็ได้รับอิสระ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
หลังจากที่เขาออกจากหลังกำแพงสูง เขาก็เดินหางานทำ สุจริตแต่สังคมยังไม่กล้าให้โอกาสเขา อาจจะเป็นเพราะรูปลักษณ์ภายนอกและคำว่าอดีตนักโทษที่เขามีอยู่ พี่เอ็มจึงใช้ความรู้ที่ติดตัวมาคือทักษะด้านมวยเขาเดินหน้าชกมวยล่ารางวัล แต่เมื่อถึงจุดอิ่มตัว เริมก้าวหลงกลับไปก้าวพลาดอีกครั้ง พี่เอ็มก้าวขาเข้าวงการยาเสพติดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาโชคดีที่มีคู่ชีวิตดีคือ คุณจ๋า ศรันย่า สุขนิ่ม คอยฉุดเขาขึ้นมาจากห้วงเวลานั้นได้ คุณจ๋าใช้ความรักชโลมความทุกข์เขาหักดิบพี่เอ็มจากยาเสพติด ด้วยการขังพี่เอ็มให้อยู่กับตัวเอง คอยส่งข้าวส่งน้ำ บล็อกการติดต่อกับสังคมเดิม โดยใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์ พี่เอ็มก็ออกจากวงจรเดิมๆได้ กลายเป็นคนใหม่ตลอดไป
ภาพจากอีจัน

เขาทั้งคู่เริ่มสร้างอนาคตกัน เริ่มจากติดลบ สิ่งที่เคยมีต้องเริ่มเก็บกันใหม่ เขาทั้งคู่สัญญาต่อกันและกันว่า แม้ไม่มีกินก็จะไม่กลับไปจุดเดิมอีกแล้ว แม้ต้องยอมทำทุกอย่างเก็บผักบุกกำละ 1 บาทขาย ยืนย่างไส้กรอกกำไรวันละ 4 ร้อยบาทก็ไม่หวั่น เพราะเงินสุจริตที่ได้มาแม้จะนอนก็ไม่ต้องระแวงใคร ไม่ต้องคอยอยู่แบบหลบๆซ่อน

ภาพจากอีจัน
จากการเก็บเล็กผสมน้อยวันนั้น ทำให้เขาทั้งคู่มีกิจการเล็กๆ คือการเปิดสอนมวย และช่วยกันประคับประคองธุรกิจของเขาไปสู่จุดสำเร็จให้ได้ พี่เอ็มทิ้งท้ายกับจันว่า วันนี้แม้จะยังไม่ใช่จุดสำเร็จสูงสุด แต่มันเกินความคาดหมายมากๆ จากคนที่ถูกเรียกนำหน้าชื่อว่านักโทษชาย วันนี้เขาคือคนที่ลูกศิษย์เรียกเต็มปากว่าครู และประโยคที่จันจำฝั่งใจและศรัทธาในความคิดของนักสู้บนสังเวียนและชีวิตจริงคนนี้คือ “การที่คนจะดีจะเลวสังคมเป็นแค่ส่วนประกอบ แต่สิ่งที่จะช่วยคุณได้คือตัวและสันดานของคุณเอง ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวคุณไม่ใช่คนอื่น”