วิกฤติไฟป่าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานขณะนี้กำลังทวีความรุนแรงยากจะควบคุม ซึ่งที่ผ่านมา จนท.อุทยานฯ ไม่เคยรายงานผลการตรวจยึดจับกุมคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ และรายงานเรื่องการเกิดไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จนหน่วยพญาเสือฯ ได้บินตรวจสภาพป่าในพื้นที่อุทยานแก่งกระจาน นำไปสู่การเปิดยุทธการปราบปรามการกระทำผิดว่าด้วยการป่าไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในครั้งนี้
- พญาเสือเตรียมลุย หลังพบรุกป่าแก่งกระจาน
- หน่วยพญาเสือ ตะลึง! ป่าแก่งกระจานถูกเผาเกรียม
- หน่วยพญาเสือ นำทีมปราบปรามรุกป่าแก่งกระจาน
- ชาวบ้านรุกเผาป่าแก่งกระจาน
2.ผลกระทบต่อดิน เมื่อมีไฟเผาทำลายต้นไม้ที่ปกคลุมดินทำให้ดินไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ เกิดการพังทลายได้ง่ายในฤดูฝน ยังทำให้ดินเสื่อมคุณภาพ
3.ผลกระทบต่อน้ำ พื้นที่ที่เกิดไฟป่าหรือถูกเผาเป็นประจำ ทำให้ความสามารถในการดูดซับน้ำลดลง เมื่อฝนตกลงมาทำให้เกิดการไหลบ่าของน้ำอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันในฤดูฝน ส่วนในฤดูแล้งจะเกิดภาวะแล้งจัดอันเนื่องมาจากน้ำในดินมีปริมาณลดลง
4.ผลกระทบต่อสัตว์ป่าและสิ่งเล็กๆที่มีชีวิต ไฟป่าที่มีความรุนแรงจะเป็นปัจจัยที่ฆ่าสัตว์ป่าและสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในป่าได้ทุกชนิด อีกทั้งยังทำลายแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร และแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพในป่าลดน้อยลง
5.ผลกระทบต่อสุขภาพ ทรัพย์สินของประชาชน และชีวิตของประชาชน ไฟป่านั้นจะเผาผลาญทรัพย์สิน ไร่ นา ของประชาชนที่อยู่ใกล้ชายป่า ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและชีวิต โดยหมอกควันไฟก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจไม่สะดวกฝุ่นละอองขนาดเล็กยังทำให้แสบตาและเคืองตาอีกด้วย เป็นผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง ประชาชนป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ โรคตาอักเสบ และผิวหนังอักเสบ เป็นจำนวนมาก
6. ผลกระทบต่อสภาวะอากาศของโลก แม้จะเป็นเรื่องใหญ่ดูเหมือนไกลจากตัวของประชาชน จริง ๆ แล้ว สภาวะอากาศที่แปรปรวนส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนโดยตรง สังเกตได้จากอากาศที่แปรปรวนอย่างสม่ำเสมอ เกิดวิฤตการณ์ฝนแล้ง ฝนตกนอกฤดู ภัยแล้ง อุทกภัย วาตภัย ที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลก (climate Change) ว่าเป็นผลจากการที่อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น (Global Warming) ซึ่งไฟป่าและหมอกควันไฟป่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดขึ้น
1. กลุ่มคนที่บุกรุกเผาป่านี้เป็นกลุ่มคนชาติพันธุ์ที่อ้างว่าทำไร่หมุนเวียน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บริเวณป่าหุบสาริกา ป่าหุบแม่คะเมยบน ป่าห้วยกระซู่
2. เมื่อทำการโค่นป่าแล้ว ก็ปล่อยให้ไม้ป่าแห้ง หลังจากนั้นเมื่อมีไม้ใหญ่และกิ่งไม้ วัชพืชแห้งก็ทำการเผา
3. เจตนาทำการเผาป่าโดยไม่ควบคุม เพื่อให้ไฟลุกลามไปยังพื้นที่ป่าใกล้เคียงเพื่อให้ไฟทำลายป่า จากนั้นก็บุกรุกเพิ่มต่อไปเรื่อยๆโดยไม่จำเป็นต้องไปแผ้วถางเปิดพื้นที่ป่าใหม่