วิกฤติไฟป่า อช.แก่งกระจาน รุนแรงอย่างต่อเนื่อง

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รับมือวิกฤติไฟป่าที่กำลังทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ยากที่จะควบคุม กระทบสัตว์ป่า-พืชพันธุ์ เสียหายหนัก!

วิกฤติไฟป่าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานขณะนี้กำลังทวีความรุนแรงยากจะควบคุม ซึ่งที่ผ่านมา จนท.อุทยานฯ ไม่เคยรายงานผลการตรวจยึดจับกุมคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ และรายงานเรื่องการเกิดไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จนหน่วยพญาเสือฯ ได้บินตรวจสภาพป่าในพื้นที่อุทยานแก่งกระจาน นำไปสู่การเปิดยุทธการปราบปรามการกระทำผิดว่าด้วยการป่าไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในครั้งนี้

ภาพจากอีจัน
ปรากฏพบว่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กำลังถูกบุกรุกทำลายป่าต้นน้ำอย่างหนักพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ที่น่าเป็นห่วงที่สุดที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานไม่เคยรายงานเลยคือ มีการเผาพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกจนทำให้ไฟลุกลามไปได้โดยอิสระเข้าไปในพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์กลายเป็นไฟป่าที่รุนแรงมากในขณะนี้จนยากที่จะควบคุมกินพื้นที่หลายพันไร่ หากยุทธการครั้งนี้ไม่เกิดขึ้นเราคงไม่ทราบเลยว่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกำลังถูกทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างหนักในขณะนี้โดยเฉพาะไฟป่า ซึ่งเป็นนโยบายของกรมอุทยานฯที่ให้หน่วยงานที่เป็นป่าอนุรักษ์ป้องกันการเกิดไฟป่าอย่างเข้มงวด แต่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกลับปล่อยให้มีการบุกรุกจนนำไปสู่การเผาป่าและเกิดไฟป่าอย่างรุนแรงในครั้งนี้
ภาพจากอีจัน
ซึ่งผลกระทบของไฟป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติมากมาย คือ 1.ผลกระทบต่อพืช ลูกไม้ กล้าไม้เล็ก ๆ และไม้พื้นล่างขาดช่วงของการสืบพันธุ์ทดแทนตามธรรมชาติ นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของป่า ทั้งยังทำให้การเจริญเติบโตของต้นไม้และคุณภาพของเนื้อไม้ลดลง

2.ผลกระทบต่อดิน เมื่อมีไฟเผาทำลายต้นไม้ที่ปกคลุมดินทำให้ดินไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ เกิดการพังทลายได้ง่ายในฤดูฝน ยังทำให้ดินเสื่อมคุณภาพ

3.ผลกระทบต่อน้ำ พื้นที่ที่เกิดไฟป่าหรือถูกเผาเป็นประจำ ทำให้ความสามารถในการดูดซับน้ำลดลง เมื่อฝนตกลงมาทำให้เกิดการไหลบ่าของน้ำอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันในฤดูฝน ส่วนในฤดูแล้งจะเกิดภาวะแล้งจัดอันเนื่องมาจากน้ำในดินมีปริมาณลดลง

4.ผลกระทบต่อสัตว์ป่าและสิ่งเล็กๆที่มีชีวิต ไฟป่าที่มีความรุนแรงจะเป็นปัจจัยที่ฆ่าสัตว์ป่าและสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในป่าได้ทุกชนิด อีกทั้งยังทำลายแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร และแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพในป่าลดน้อยลง

5.ผลกระทบต่อสุขภาพ ทรัพย์สินของประชาชน และชีวิตของประชาชน ไฟป่านั้นจะเผาผลาญทรัพย์สิน ไร่ นา ของประชาชนที่อยู่ใกล้ชายป่า ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและชีวิต โดยหมอกควันไฟก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจไม่สะดวกฝุ่นละอองขนาดเล็กยังทำให้แสบตาและเคืองตาอีกด้วย เป็นผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรง ประชาชนป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ โรคตาอักเสบ และผิวหนังอักเสบ เป็นจำนวนมาก

6. ผลกระทบต่อสภาวะอากาศของโลก แม้จะเป็นเรื่องใหญ่ดูเหมือนไกลจากตัวของประชาชน จริง ๆ แล้ว สภาวะอากาศที่แปรปรวนส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนโดยตรง สังเกตได้จากอากาศที่แปรปรวนอย่างสม่ำเสมอ เกิดวิฤตการณ์ฝนแล้ง ฝนตกนอกฤดู ภัยแล้ง อุทกภัย วาตภัย ที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลก (climate Change) ว่าเป็นผลจากการที่อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น (Global Warming) ซึ่งไฟป่าและหมอกควันไฟป่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดขึ้น

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ส่วน สาเหตุของการเกิดไฟป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่รุนแรงในครั้งนี้คือ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานปล่อยให้มีการโค่นต้นไม้ใหญ่ ฟันป่า แผ้วถางป่าใหม่จำนวนมากเพื่อขยายพื้นที่ทำกิน ดังนั้น เมื่อมีการโค่นป่าใหม่ ผู้บุกรุกก็เลือกใช้วิธีการเผาเพื่อกำจัดไม้ใหญ่ เศษกิ่งไม้ เพื่อทำความสะอาดพื้นที่ โดยไม่คำนึงถึงว่าไฟจะลุกลามไปยังไง ดังนั้นเมื่อมีการเผาป่าโดยอิสระไม่มีการควบคุม ไฟก็ลุกลามเข้าพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์เกิดเป็นไฟป่าที่รุนแรงในขณะนี้ เช่น

1. กลุ่มคนที่บุกรุกเผาป่านี้เป็นกลุ่มคนชาติพันธุ์ที่อ้างว่าทำไร่หมุนเวียน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บริเวณป่าหุบสาริกา ป่าหุบแม่คะเมยบน ป่าห้วยกระซู่

2. เมื่อทำการโค่นป่าแล้ว ก็ปล่อยให้ไม้ป่าแห้ง หลังจากนั้นเมื่อมีไม้ใหญ่และกิ่งไม้ วัชพืชแห้งก็ทำการเผา

3. เจตนาทำการเผาป่าโดยไม่ควบคุม เพื่อให้ไฟลุกลามไปยังพื้นที่ป่าใกล้เคียงเพื่อให้ไฟทำลายป่า จากนั้นก็บุกรุกเพิ่มต่อไปเรื่อยๆโดยไม่จำเป็นต้องไปแผ้วถางเปิดพื้นที่ป่าใหม่