9 มีนาคม 2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ทั้ง 3 ฉบับ ที่ได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา มีผลบังคับใช้วันนี้ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งหมดแล้ว
รายละเอียดคือประกาศฉบับที่ 9 นั้นมีผลให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก และผู้แทนจำหน่ายหน้ากากอนามัยจะต้องแจ้งข้อมูลต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณการส่งออก ปริมาณการคงเหลือ รวมทั้งราคาจำหน่าย ที่ต้องสอดคล้องกับต้นทุนทั้งหมดทุกวันมาที่เลขานุการคือ อธิบดีกรมการค้าภายใน
ประการที่สอง เรื่องการควบคุมราคาหรือการกำหนดราคาจำหน่ายปลีกในตลาดหน้ากากอนามัยชนิดที่ใช้เพื่อการแพทย์ที่เรียกว่า Surgical mask ที่เป็นหน้ากากอนามัยสีเขียว คือหน้ากากที่กำหนดราคาจำหน่ายปลีกไว้ชัดเจน ซึ่งในประเทศไทยสามารถผลิตได้แค่ 11 โรงงานเท่านั้น และมีกำลังการผลิตเดือนละ 36,000,000 ชิ้น เฉลี่ยวันละ 1,200,000 ชิ้นและในบรรดาหน้ากากทั้งหมดที่เป็นหน้ากากทางการแพทย์สีเขียว เมื่อไปถึงร้านจำหน่ายปลีกจะขายปลีกได้ไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาทใครขายเกิน 2.50 บาท ถือว่าขายเกินราคา ถ้าจะจับกุมดำเนินคดี จะมีโทษจำคุกไม่เกินห้าปีปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งอาจโดนข้อหาร่วมอีกข้อหาหนึ่งถ้าขายเกินราคา คือ ค้ากำไรเกินควร จะโดนอีกข้อหาหนึ่งโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
และประกาศฉบับที่ 11 สำหรับเจลล้างมือต้องไม่ขายสูงกว่าราคาที่เคยแจ้งไว้กับกรมการค้าภายใน
สำหรับกรณีการจัดสรรหน้ากากอนามัย 1.2 ล้านชิ้นต่อวันไปยังภาคส่วนต่างๆ นั้นได้มีศูนย์กระจายหน้ากากเกิดขึ้น โดยบริหารจัดการร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีรองเลขาธิการ อย. เป็นผู้แทน และอธิบดีกรมการค้าภายในผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยกันจัดสรรว่าจะไปที่ใดบ้าง โดยได้มีข้อตกลงร่วมกันเบื้องต้นว่า 700,000 ชิ้น นั้น กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้รับผิดชอบ ระบายไปยังสถานพยาบาลทุกชนิดทุกประเภท ทุกหน่วย ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสุดจำนวน 700,000 ชิ้น และกรมการค้าภายในจะบริหารจัดการ 500,000 ชิ้นที่เหลือ ไปบริหารจัดการกระจายไปยังภาคส่วนต่างๆ เช่น ร้านขายยา การบินไทย ร้านธงฟ้า และร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าส่งที่อยู่ในระบบตลาดทั้งหมดจะมีการบริหารจัดการรายวัน หากไม่เพียงพอต้องปรับตัวเลขทุกวันซึ่งประชุมร่วมกัน
ถ้าเป็นหน้ากากสีเขียวหน้ากากที่ใช้เพื่อการแพทย์ 1,200,000 ชิ้นต่อวันนั้นขายได้ไม่เกิน 2.50 บาท หากเกินกว่านี้ถือว่าขายเกินราคา ถ้าแพงมากกว่านั้นถือว่าค้ากำไรเกินควร จะโดนสองข้อหา และถ้าไม่จำหน่ายเอาไปเก็บไว้ในปริมาณที่เข้าข่ายการกักตุนจะดำเนินคดีข้อหากักตุนด้วย ซึ่งในส่วนนี้เป็นหน้าที่ของกรมการค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดเข้าไปดู
ถ้าเป็นโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ศูนย์กระจายหน้ากากได้บริหารจัดการแบ่งสัดส่วนให้ไปแล้วด้วยความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุขโดยรองเลขาธิการ อย. ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะร่วมกับองค์การเภสัชกรรมรับไป 700,000 ชิ้น
ถ้าเป็นโรงพยาบาลทั่วไประดับจังหวัดหรือโรงพยาบาลศูนย์ จัดอยู่ในเครือข่ายของปริมาณที่จัดสรรอยู่ใน 700,000 ชิ้น นั้นอยู่แล้วเป็นหน้าที่ที่กระทรวงสาธารณสุขต้องไปทำความเข้าใจและบริหารจัดการกันเองภายใน ถ้ารวมทั้งระบบแล้ว 700,000 ชิ้นไม่พอให้มาประชุมร่วมกันในส่วนบริหารจัดการซึ่งมีตัวแทนกระทรวงอยู่แล้วประธานร่วมกับกรมการค้าภายในอาจต้องเพิ่มเป็น 750,000 ชิ้น 800,000 ชิ้นเป็นต้น โดยแบ่งจากสัดส่วนของประชาชนทั่วประเทศเพราะตัวเลขรวมคือ 1,200,000 ชิ้นต่อวัน
พร้อมกันนี้ ศูนย์กระจายหน้ากากได้มีการให้ดูเผื่อผีน้อยด้วย เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของประชาชน