ศาลยกคำร้องอุทธรณ์ครูปรีชา

ศาลพิพากษายกอุทธรณ์ครูปรีชา กรณีคำสั่งถอนอายัดเงินลุงจรูญไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทนายตั้มเผย หลังจบคดีหลัก เดือน มิ.ย. เตรียมดำเนินคดีพยานที่ให้การเท็จฝั่งครูปรีชาทุกคน

วันนี้ (5 มี.ค. 63) เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดกาญจนบุรีนัดอ่านคำพิพากษา ในกรณีที่ ครูปรีชา ใคร่ครวญ ได้ยื่นอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์ ในกรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งถอนอายัดเงินในบัญชีของลุงจรูญ เมื่อถึงเวลานัดหมาย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล และภรรยา พร้อมด้วย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน หรือทนายตั้ม และทีมทนายความ ได้เดินทางมาถึงศาล เพื่อเข้ารับฟังคำพิพากษาในการอุทธรณ์ทั้งสองเรื่องของครูปรีชา แต่ไม่ปรากฏว่าทางครูปรีชาเดินทางมารับฟังคำพิพากษาแต่อย่างใด

ภาพจากอีจัน

ซึ่งหลังจาก ลุงจรูญและทนายตั้ม ได้ขึ้นไปบนห้องพิจารณาคดีประมาณ 30 นาที ก็ได้กลับออกมาพร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ในวันนี้ศาลได้มีคำพิพากษาในคำอุทธรณ์ของครูปรีชา ใคร่ครวญ 2 เรื่อง เรื่องที่ 1 คือเรื่องที่มีการคัดค้านคำสั่งถอนอายัดเงินในบัญชีของลุงจรูญ ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งถอนอายัดเงินในบัญชีของลุงจรูญ ถือเป็นอำนาจของศาลชั้นต้นที่สามารถกระทำได้ ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัยและยกคำอุทธรณ์นี้ไป ส่วนคำร้องที่บอกว่ากระบวนพิจารณาเพิกถอนคำสั่งอายัดเงินในบัญชีของลุงจรูญโดยศาลชั้นต้นเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้น ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า แม้คดีนี้จะเป็นคดีที่มีการจำหน่ายคดีออกไปแล้ว แต่เป็นการจำหน่ายคดีเพียงชั่วคราว ศาลชั้นต้นมีอำนาจที่จะหยิบยกมาวินิจฉัยได้ตามกฎหมาย การพิจารณาเพิกถอนคำสั่งอายัดเงินในบัญชีของลุงจรูญจึงถือเป็นสิ่งที่ศาลชั้นต้นมีอำนาจสามารถวินิจฉัยได้ ศาลอุทธรณ์จึงมีคำสั่งยกอุทธรณ์ทั้งสองเรื่อง

ภาพจากอีจัน

หลังจากนี้ ลุงจรูญจึงมีสิทธิ์ในการใช้จ่ายเงินในบัญชีดังกล่าวอย่างถูกต้อง เนื่องจากการเพิกถอนคำสั่งอายัดเงินในบัญชีนั้น ถือเป็นคำสั่งที่ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย ในส่วนของคดีหลัก ศาลได้มีการนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในวันที่ 25 มิถุนายน 2563 เวลา 09.00 น. ซึ่งเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาออกมาเรียบร้อยแล้ว และยังคงเป็นไปในแนวทางเดียวกับศาลชั้นต้น ทางฝ่ายของตนก็จะได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับพยานที่ขึ้นมาให้การไม่ตรงกับความเป็นจริงในฝั่งของครูปรีชาต่อไป

ด้าน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล กล่าวว่า หลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองเรื่องเรียบร้อย ตนเองรู้สึกสบายใจขึ้นมาก ที่ผ่านมา ตนรู้ดีอยู่แก่ใจว่าข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นอย่างไรเมื่อศาลมีคำพิพากษาออกมาเช่นนี้จึงรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ส่วนเงินในบัญชี ที่ ได้รับการเพิกถอนแล้วก็ยังไม่มีความคิดที่ว่าจะนำไปลงทุนใดๆ คงจะต้องหารือกับครอบครัวต่อไป