บอร์ด สปสช. ลงมติเห็นชอบ ใช้บัตรทองรักษาโควิด-19 ได้

บอร์ด สปสช. ลงมติเห็นชอบ ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ใช้สิทธิ์บัตรทองรักษาได้

วันนี้ (2 มี.ค. 63) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อยู่ในประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) พร้อมอนุมัติหลักการให้ใช้เงินกองทุน “รายการรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสม จำนวนไม่เกิน 1,020 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเบิกจ่ายในกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของหน่วยบริการ

ภาพจากอีจัน

โดย นายอนุทิน กล่าวว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “กองทุนบัตรทอง” ซึ่งเป็นระบบหลักประกันสุขภาพใหญ่ที่สุดของประเทศ มีภารกิจหลักสำคัญในการดูแลคนไทย ให้เข้าถึงการรักษา และบริการสาธารณสุขที่จำเป็น รวมถึงในกรณีที่เกิดโรคระบาดอย่างกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในขณะนี้

ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ยังได้มอบให้ สปสช. ใช้งบประมาณจากองทุนฯ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกัน และควบคุมโรค ในการร่วมสกัดปัญหาการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ แม้ว่าการแพร่ระบาดของประเทศไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 คือ “ไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศ” แต่ สปสช. จำเป็นต้องเตรียมงบประมาณรองรับไว้เพื่อสร้างความมั่นใจ และสนับสนุนการบริการของหน่วยบริการในการดูแลผู้ป่วยและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และในวันนี้ (2 มี.ค. 63) บอร์ด สปสช. ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อยู่ในรายการประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ครอบคลุมดูแลทั้งการป้องกันโรค สร้างเสริมสุขภาพ ตรวจวินิจฉัยโรค รักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ และมอบให้คณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุขที่จำเป็นต่อสุขภาพและดำรงชีวิต พิจารณารายละเอียดมาตรฐาน และแนวทางบริการ

ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า คณะกรรมการฯ และ สปสช.ขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรสาธารณสุขทุกท่านที่เป็นด่านหน้าต่อสู้กับโรคโควิด-19 อย่างเข้มแข็ง และกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมา โรงพยาบาลได้ให้บริการประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองอยู่แล้ว และสามารถเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายจากกองทุนบัตรทอง เพียงแต่การกำหนดไว้ในประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุข จะทำให้เกิดความชัดเจนในการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการยิ่งขึ้น