วันนี้ (1 มี.ค. 63) สำนักข่าวซินหัวรายงาน รัฐวอซิงตัน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 เสียชีวิตรายแรกใน คิงเคาน์ตี รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
โดยเมื่อวานนี้ (29 ก.พ. 63) กระทรวงสาธารณสุขของรัฐวอชิงตันออกมายืนยันว่า พบผู้เสียชีวิตรายแรกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 จริง โดย ผู้เสียชีวิตรายนี้ เป็นหญิงช่วงวัยประมาณ 50 ปี อาศัยอยู่ในคิงเคาน์ตี รัฐวอชิงตัน ซึ่งขณะเดียวกันนี้ ตัวเลขของผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ในหลายๆ รัฐทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา โดยไม่ทราบสาเหตุการติดต่อ
โดย เจย์ อินส์ลี (Jay Inslee) ผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน กล่าวว่า “เป็นวันที่น่าเศร้าของรัฐเรา ที่ได้รู้ว่ามีชาววอชิงตันเสียชีวิตจากโควิด-19” ซึ่งหลังพบกรณีเสียชีวิตเป็นรายแรก อินส์ลี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถประสานงานกับหน่วยงาน และกระทรวงต่างๆ ของรัฐ เพื่อใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่จำเป็นให้รับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ให้สามารถฟื้นตัวจากสถานการณ์โรคระบาด โดย เจย์ อินส์ลี ได้กล่าวอีกว่า “ถึงเวลาแล้วที่เราต้องใช้มาตรการเชิงรุก เพื่อรับรองความปลอดภัยและสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในรัฐวอชิงตัน”
ทั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังรายงานว่า มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ จำนวนทั้งสิ้น 22 ราย โดยข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) รายงานว่า พบการแพร่กระจายจากคนสู่คนถึง 3 ครั้ง ทั้งยังมีผู้ติดเชื้ออีก 47 ราย ที่อพยพมาจากเมืองอู่ฮั่น หรือ เรือสำราญ ไดมอนด์ ปรินเซส ซึ่งเทียบท่าที่โยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่นด้วย