สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ยังระบาดหนักต่อเนื่องไปทั่วโลก โดยทุกประเทศจะต้องเตรียมพร้อมมากขึ้นเพื่อรับมือกับโรคดังกล่าว
- ข่าวลือ! เด็กจีน ติดเชื้อโควิด-19 ที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ไม่เป็นความจริง
- สธ.แถลง พบไกด์นำเที่ยว วัย 25 ติดเชื้อโควิด-19 หลังกลับจากเกาหลีใต้
- อนุบาลเชียงใหม่ หยุดเรียน 2 อาทิตย์ ป้องกันโควิด-19
- สธ.แนะผู้ป่วยไข้หวัดสวมหน้ากากอนามัย รับผิดชอบสังคม
- จนท. รพ.โพสต์ภาพวอนอย่าส่งต่อ ถ้ามีผู้ต้องสงสัยต้องตรวจเชื้อทันที
28 ก.พ. 63 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ประสบความสำเร็จในการแยกเชื้อไวรัสจากผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หลายราย ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้นำเชื้อโควิด-19 มาขยายเพิ่มปริมาณในเซลล์เพาะเลี้ยง ภายใต้การปฏิบัติงานในห้องชีวนิรภัยระดับ 3 (Biosafety Level 3) ด้วยเล็งเห็นว่าเชื้อดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่องานวิจัยในหลายแขนง เช่น การพัฒนายาหรือวัคซีนป้องกันโรค การพัฒนาวิธีตรวจวินิจฉัยโรค ตลอดจนการศึกษาวิจัยเพื่อให้ได้องค์ความรู้ใหม่ อันเป็นประโยชน์ต่อการรักษา ป้องกัน และควบคุมโรค ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
เชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเชื้ออุบัติใหม่จัดอยู่ในกลุ่มที่มีอันตรายร้ายแรง คณะกรรมการฯ และคณะอนุกรรมการด้านวิชาการและด้านกฎหมาย ภายใต้พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ.2558 จึงได้เพิ่มชื่อเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเชื้อโรคที่ประสงค์ควบคุมตามมาตรา 18 (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้จำแนกเชื้อโควิด-19 เป็นเชื้อกลุ่ม 3 ที่จะต้องควบคุม
ผู้ที่จะครอบครองต้องขออนุญาตที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข หากหน่วยงานใดมีความประสงค์จะขอครอบครองเชื้อดังกล่าว ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของพระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษสัตว์
ทั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยินดีที่จะสนับสนุนหากการศึกษาวิจัยดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษา ป้องกัน และควบคุมโรค
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โทร. 0 2951 0000 ต่อ 99206, 99305