วานนี้ (27 ก.พ. 63) ที่ วัดหนองคลอง ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว บรรดาญาติๆ กำลังจัดงานศพให้กับ นางกัญญาภรณ์ รอดภัย อายุ 52 ปี ชาว ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ซึ่งเสียชีวิตจากการรับประทานไข่แมงดาทะเลพิษ
ทั้งนี้ จากข้อมูลรายงานของผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แมงดาทะเลมักจะอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล และวางไข่ตามริมชายฝั่งที่เป็นดินทราย ซึ่งแมงดาถ้วยหรือแมงดาทะเลหางกลม หรือเหรา หรือแมงดาไฟ จะไม่สามารถรับประทานได้เนื่องจากมีพิษ โดยสามารถสังเกตได้จากลำตัวที่โค้งกลม หางกลม ผิวด้านบนมีขนสั้น สีน้ำตาลอมแดง ต่อจากส่วนท้องมีหางค่อนข้างกลม ไม่มีสันและไม่มีหนาม และอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและตามคลองในป่าชายเลน โดยฝั่งทะเลอ่าวไทยจะพบแมงดาทั้งสองชนิดนี้มากที่สุดตามพื้นที่แนวชายฝั่งของทะเล ตั้งแต่ จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดไปจนถึงชุมพร ส่วนฝั่งทะเลอันดามันจะพบได้ตั้งแต่ จ.สตูล ไปจนถึง จ.ระนอง
สำหรับอาการของผู้ที่ได้รับพิษไข่แมงดา จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และบางรายอาจมีน้ำลายฟูมปาก เหงื่อออกมาก พูดลำบาก ตามองเห็นภาพไม่ชัด ในรายที่มีอาการรุนแรงมาก จะมีผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หายใจลำบาก เนื่องจากกล้ามเนื้อกระบังลมไม่ทำงาน ระบบหายใจล้มเหลว หมดสติ และสมองขาดออกซิเจน หากช่วยไม่ทันอาจเสียชีวิตได้ภายใน 6-24 ชั่วโมง
ส่วนวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น จะต้องให้ผู้ปฐมพยาบาลทำให้ผู้ป่วยหายใจคล่องที่สุด และรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด หากผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทำการผายปอดจนกว่าจะถึงโรงพยาบาล และห้ามให้ผู้ป่วยรับประทานอาหาร น้ำ หรือ ยา เนื่องจากผู้ป่วยอาจเกิดอาการสำลักได้ ซึ่งจากการสำรวจระหว่างปี 2556-2561 พบมีผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากการรับประทานไข่แมงดาทะเล จำนวน 33 ราย และเสียชีวิต 3 ราย โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขาดความรู้เรื่องพิษของแมงดาทะเล
ด้าน น.ส.ณัฐพร รอดภัย อายุ 25 ปี ลูกสาวผู้ตาย บอกว่า อยากฝากเรื่องของแม่ไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนขายอาหารทะเล ว่าให้ดูดี ๆ ว่าแมงดาที่นำมาขายนั้นเป็นแมงดาพิษหรือไม่ และขอให้แม่ของตัวเองเป็นรายสุดท้าย ขออย่าให้เกิดกับคนอื่นอีกเลย
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยนะคะ สำหรับใครที่จะทานไข่แมงดาทะเลควรเลือกชนิดของแมงดาดีๆ นะคะจันเป็นห่วงค่ะ