วันนี้ (28 ก.พ. 63) พลเรือโทสุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1, นายไชยทัต นิวาศะบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร และผู้แทนจากกองบังคับการตำรวจน้ำ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมัน ลักลอบบรรทุกน้ำมันดีเซล เข้ามาจำหน่ายในประเทศ ปริมาณรวมกว่า 140,000 ลิตร มูลค่าประมาณ 3,800,000 บาท ณ หน่วยสืบสวนปราบปรามสมุทรปราการ กองสืบสวนและปราบปราม จังหวัดสมุทรปราการ
พลเรือโทสุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า การจับกุม สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 63 ทัพเรือภาค 1 ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค.1 (ศรชล.ภาค1) เตรียมแผนในการป้องกันและปราบปราม พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์การลักลอบค้าน้ำมันผิดกฎหมายอย่างใกล้ชิด และได้ตรวจพบเรือบรรทุกน้ำมัน ส.พรนาวิน บริวณปากร่องแม่น้ำท่าจีน จังหวัดสมุทรสาคร และนำไปสู่การร่วมกันจับกุมเรือ พ.สุดสาคร 4 เพิ่มอีก 1 ลำ
เรือ ส.พรนาวิน บรรทุกน้ำมันดีเซลมาจำนวน 100,000 ลิตร และ พ.สุดสาคร 4 บรรทุกน้ำมันชนิดเดียวกันจำนวน 40,000 ลิตร รวมทั้ง 2 ลำ มีน้ำมันมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 3,800,000 บาท
ด้านนายไชยทัต นิวาศะบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร เผยว่า ในส่วนของผู้กระทำความผิดนั้น อยู่ในระหว่างการสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นอัตราโทษสูงสุดของการกระทำความผิดคือ ให้ริบของที่ลักลอบหนีศุลกากรและปรับเป็น เงิน 4 เท่าของของราคารวมค่าภาษีอากร หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งปรับและจำ
ส่วนของกลางคือน้ำมันที่ยึดได้นั้นก็ทางศุลกากรจะเก็บรักษาเอาไว้และจำหน่ายตามราคาของอำนาจกรมศุลกากร