วันนี้ (8 ก.พ. 68) นายชูชีพ พงษ์ไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา หลังมีรายงานการชุมนุมของประชาชนในเมืองเมียวดี เพื่อต่อต้านมาตรการของไทยที่ระงับการจ่ายไฟฟ้า น้ำมัน และก๊าซหุงต้ม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกดดันกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ
โดยเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา ที่ สวนสาธารณะส่วยเมียะสั่นดี่ เมืองเมียวดี นายอูตู่เหร่งเหม่นทุน อายุ 44 ปี ประธานสมัชชาเมียนมาวดี และนายอูจ่อจ่อ อายุ 45 ปี นำกลุ่มประชาชนราว 30 คน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีรายงานว่าจำนวนผู้ชุมนุมอาจสูงถึง 2,000-3,000 คน แต่จากการประเมินในพื้นที่ พบว่ามีเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ที่รวมตัวกัน
ในส่วนของบรรยากาศการเดินขบวนไปยังสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 เพื่อแสดงจุดยืนของกลุ่มนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้จะมีการตะโกนจากผู้ชุมนุมว่า “จงปิดสะพานการค้าชายแดนไทย-เมียนมา 1 และ 2”, “จงปิดท่าต่างๆ ผิดกฎหมายพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา จงอย่าใช้สินค้าไทย” แต่ก็ไม่มีเหตุรุนแรงใด ๆ เกิดขึ้น
นายชูชีพ พงษ์ไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ให้สัมภาษณ์หลังการลงพื้นที่ว่า มาตรการของไทยยังคงดำเนินไปตามนโยบาย เพื่อควบคุมอาชญากรรมข้ามชาติและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้พื้นที่เมียนมาเป็นฐานปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการค้าชายแดนยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะการเติมน้ำมันของประชาชนชาวเมียนมา ซึ่งวันนี้มีจำนวนรถที่เข้ามาเติมน้ำมันมากกว่า 700 คัน เพิ่มขึ้นจากทุกวันราว 200 คัน
“จากการลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ เชื่อว่าประชาชนในฝั่งเมียนมาสามารถปรับตัวได้ และไม่ได้รับความเดือดร้อนมากนักตามที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้”
นายชูชีพ พงษ์ไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก
แม้ว่าจะมีการชุมนุมแสดงพลังในฝั่งเมียนมา แต่ภาพรวมของสถานการณ์ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อการข้ามแดนหรือเศรษฐกิจชายแดนอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ทางการไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินแนวทางการบริหารจัดการต่อไป