ถึงกับขนลุก! หญิงวัย 46 ปี คันทวารหนัก แพทย์ส่องพบ “พยาธิตืดปลา” ในลำไส้

เห็นแล้วถึงกับขนลุก! หญิงวัย 46 ปี คันทวารหนัก แพทย์ส่องกล้องพบ “พยาธิตืดปลา”ในลำไส้ เผยสาเหตุกินปลาที่ติดเชื้อ-ปรุงไม่สุก

ระวังไว้ให้ดี! ใครที่ชอบกินของดิบไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว , เนื้อหมูดิบ , ปลาดิบ หรือกึ่งดิบกึ่งสุก อาจจะมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในลำไส้ไม่รู้ตัว

วันนี้ (10 มี.ค.68) เพจเฟซบุ๊ก เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม ได้โพสต์วิดีโอขณะส่องกล้องลำไส้ใหญ่ของหญิงรายหนึ่ง ที่เข้ารักษาด้วยอาการคันบริเวณทวารหนัก ก่อนสุดท้ายพบเจอพยาธิตืดปลา โดยแคปชั่นระบุว่า….

“หญิงอายุ 46 ปีมีอาการคันบริเวณทวารหนักเป็นเวลา 3 วัน และพบสิ่งที่คล้ายเส้นเทปในอุจจาระเป็นเวลา 1 วัน ในปีที่ผ่านมา เธอมีอาการปวดท้องแบบเป็นพัก ๆ และอุจจาระเหลว ซึ่งเคยถูกวินิจฉัยว่าเป็นอาการของโรคลำไส้แปรปรวน การตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบความผิดปกติ และไม่มีหลักฐานของภาวะโลหิตจาง การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่พบพยาธิตัวตืดชนิด

Diphyllobothrium latum ซึ่งมีความยาวและยังเคลื่อนไหวอยู่ โดยพบตั้งแต่บริเวณปลายลำไส้เล็กจนถึงลำไส้ใหญ่ส่วนซิกมอยด์ D. latum เป็นพยาธิตัวตืดที่สามารถติดเชื้อในมนุษย์หลังจากบริโภคปลาที่ติดเชื้อและปรุงไม่สุกหรือดิบ Citation: Jae Hak Kim & Jin Ho Lee. Diphyllobothrium latum during Colonoscopy. N Engl J Med 2010;362: e40”

โดย พยาธิตืดปลา นั้น เป็นพยาธิตัวตืดที่ก่อโรคในมนุษย์จากการกินปลาที่ปรุงไม่สุก ศัพท์ทางการแพทย์เรียกโรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิตืดปลาว่า Diphyllobothriasis สปีชีส์ หลักของพยาธิกลุ่มนี้คือ Diphyllobothrium latum

การติดเชื้อมักมีอาการเล็กน้อย ได้แก่ ท้องเสีย ปวดท้อง อาเจียน น้ำหนักลด อ่อนล้า ท้องผูก และรู้สึกไม่สบาย ผู้ติดเชื้อประมาณสี่ในห้าไม่มีอาการ การติดเชื้ออาจคงอยู่หลายปีโดยไม่ถูกตรวจพบ ผู้ติดเชื้อส่วนน้อยอาจเกิดอาการขาด วิตามิน B12 อย่างรุนแรงเนื่องจากพยาธิดูดซึมวิตามิน B12 ที่คนกินเข้าไป 80% หรือมากกว่า ทำให้เกิดโลหิตจางชนิด Megaloblastic anemia นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดอาการทางระบบประสาทจากการสูญเสียไมอีลิน (subacute combined degeneration of spinal cord) การติดเชื้อจะต้องนานเป็นเวลาหลายปีกว่าที่วิตามิน B-12 ในร่างกายจะลดลงจนถึงระดับที่เกิดอาการทางระบบประสาท

ทั้งนี้ ควรกินอาหารที่ผ่านการปรุงสุกแล้วดีกว่านะคะ

ขอบคุณข้อมูล : “เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม