
เมื่อวานนี้ (10 พ.ค. 2562) ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี รับแจ้งจากนางวิไล โชคสมานชัย อายุ 64 ปี ว่าพบโครงกระดูกเด็กในซองใส่อัฐิของครอบครัวซึ่งอยู่ภายวัดหนองแฟบ ต.สำนักบก อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยไม่รู้ว่าโครงกระดูกดังกล่าวเป็นใครและเข้ามาอยู่ในซองใส่อัฐิได้อย่างไร หลังรับแจ้งจึงประสานแพทย์โรงพยาบาลชลบุรี และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบ


นางวิไล เผยว่า โครงกระดูกดังกล่าวถูกพบขณะที่ตนเองได้นำกระดูกของน้องชายหลังฌาปนกิจศพ มาเก็บไว้ในช่องใส่กระดูกที่ทำไว้ทั้งหมด 3 ช่อง ประพกอบไปด้วย ของพ่อ แม่ และของตนที่เตรียมไว้ในอนาคต แต่เมื่อจะนำกระดูกของน้องชายใส่ในช่องกลับพบว่าช่องเก็บซองถูกปิดสนิทถึงขั้นต้องใช้ค้อนทุบจึงจะเปิดออกได้ เมื่อเปิดออกดูก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบโครงกระดูกที่ไม่ทราบว่าเป็นของใคร จึงได้ไปตามสัปเหร่อมาตรวจสอบ จนรู้ว่าเป็นกระดูกเด็ก และคาดว่าเสียชีวิตมานานหลายเดือนแล้ว
ด้าน นายบุญลือ อุตสาหะ สัปเหร่อของวัดหนองแฟบ เล่าว่า จากการที่ตรวจดูช่องเก็บกระดูกพบสิ่งผิดปกติ เพราะมีการทำพิธีสะกดวิญญาณด้วยอักขระขอมเหมือนไม่ให้เด็กไปผุดไปเกิด ทั้งที่เด็กเป็นร่างบริสุทธิ์ไม่มีความผิด จึงได้ทำพิธีแก้เคล็ดโดยใช้หญิงมีประจำเดือนไปล้างอักขระอาถรรพ์ให้หมดไป หลังจากนี้ก็จะได้นำศพเด็กไปทำพิธีเพื่อให้ไปสู่สุคติต่อไป

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นโครงกระดูกมนุษย์หรือของสัตว์ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นพิธีล้างอาถรรพ์ตามความเชื่อแล้ว ได้ส่งโครงกระดูกให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อความแน่ชัดต่อไป


ถ้าเป็นโครงกระดูกมนุษย์ แล้วกระดูกนี้เป็นของใคร เสียชีวิตมานานแค่ไหน ?
เรื่องนี้คงต้องติดตามกันต่อ…

