จากกรณีญาติๆ และผู้ปกครอง ของ นายชลวัฒน์ หรือน้องอิกคิว อายุ 15 ปี เข้าร้องเรียนกับสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เพื่อให้ช่วยเหลือหลัง น้องอิกคิว สอบเข้าชั้น ม.4 โรงเรียนดังประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลำดับที่ 15 จากทั้งหมด 32 คน แต่ปรากฏว่า วันรายงานตัว 9 เม.ย.68 ที่ผ่านมา น้องอิกคิว ไม่สามารถรายตัวได้เนื่องจากทางโรงเรียนใหม่ต้องการใบ ปพ. หรือใบแจ้งจบการศึกษาตัวจริงจากทางโรงเรียนเก่ามาแสดงกับทางโรงเรียนใหม่ แต่น้องอิกคิวไม่สามารถนำมาแสดงได้เนื่องจากได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนเก่าว่าจะออกใบ ปพ. ตัวจริงให้พร้อมกันในวันที่ 18เม.ย.68 ทำให้ไม่ทันการ จนเกิดเป็นปัญหาดราม่าขึ้นมาในขณะนี้
น้องอิกคิว จึงเข้าร้องเรียนกับทางสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เพื่อขอให้ทางโรงเรียนใหม่ที่สอบเข้าได้ผ่อนผันอนุโลมให้เด็กได้เข้ารายตัว และเข้าเรียนก่อนเป็นกรณีพิเศษ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้
ล่าสุดวันนี้ (11 เม.ย.68) “น้องอิกคิว” พร้อมด้วยผู้ปกครอง ได้เดินทางมาพบผู้สื่อข่าวอีกครั้ง โดยแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า โรงเรียนใหม่ได้ตัดสิทธิ์น้องอิกคิว เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.68 เนื่องจากเด็กนักเรียนไม่สามารถนำใบ ปพ.ตัวจริงจากโรงเรียนเก่ามาแสดงกับทางโรงเรียนใหม่ได้
น.ส.ภาคินี ผู้ปกครองที่พาเด็กไปรายงานตัวกับทางโรงเรียนใหม่ เล่าว่า หลังจากน้องอิกคิวสอบเข้าโรงเรียนใหม่แล้วก็ พาเด็กไปรายงานตัวที่โรงเรียนใหม่ แต่ติดปัญหาเรื่องเอกสารใบ ปพ.ตัวจริง ที่ทางโรงเรียนเก่าไม่ยอมออกให้ ซึ่งในวันดังกล่าวตนและเด็กนักเรียนพร้อมญาติๆ และครูโรงเรียนใหม่ต้องวิ่งไปมาระหว่างโรงเรียนเก่ากับโรงเรียนใหม่หลายรอบ เพื่อประสานงานขอเอกสารใบ ปพ.ตัวจริง จากทางโรงเรียนเก่าแต่ไม่เป็นผล แม้ครูจากทางโรงเรียนใหม่จะเดินทางไปช่วยคุยแล้วก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดทางโรงเรียนใหม่ได้ตัดสิทธิ์น้องอิกคิวไปอย่างน่าเสียหาย
แม้จะพยายามพูดอ้อนวอนขอความเห็นใจจากผู้บริหารทั้งสองโรงเรียนก็ไม่เป็นผล ทำให้น้องอิกคิว เกิดความเครียดมากถึงกับร่ำไห้โฮออกมาตลอดเวลา กินข้าวไม่ได้มาหลายวัน ต้องเดินคอตกหลับบ้านอย่างน่าเสียดาย เพราะหมดหนทางที่จะเข้าโรงเรียนใหม่ได้แม้จะสอบเข้าได้ตามความสามารถของตนเอง เพราะอิกคิวมีความตั้งใจสูงที่จะสอบเข้าโรงเรียนแห่งนี้ให้ได้แต่เมื่อเกิดปัญหาแบบนี้ทำให้เครียดและเสียใจมาก
ต่อจากนี้ญาติๆ และครูจ๋า ซึ่งเป็นครูกวดวิชา และน้องอิกคิวจะเดินหน้าไปร้องศาลปกครองนครศรีธรรมราชและร้องไปยังคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ช่วยเหลือในเรื่องนี้เป็นกรพิเศษ โดยเรื่องนี้ได้มีทาง สว.ท่านหนึ่ง และนายปกรณ์ อารีกุล อดีตผู้สมัคร สส.พรรคประชาชน ได้กระโดดลงช่วยเหลือเยียวยาน้องอิกคิวในเรื่องนี้อย่างเต็มที่แล้ว น.ส.ภาคินี กล่าว
ขณะที่น้องอิกคิว ได้กล่าวว่า หลังจากทราบว่าตนถูกตัดสิทธิ์เข้าโรงเรียนใหม่ทำให้เกิดความเครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน เพราะตนตั้งใจอย่างมากที่จะสอบโรงเรียนแห่งนี้ให้ได้ แต่เมื่อสอบได้แล้วกลับมาเจอปัญหาเรื่องไม่มีใบ ปพ. ตัวจริงจากโรงเรียนเก่ามาแสดงกับทางโรงเรียนใหม่ภายในกำหนด ทำให้ตนเครียดมากๆ แต่โชคดีที่มีญาติและเพื่อนๆ มาช่วยเหลือปลอบใจตนจนกำลังใจดีขึ้นบ้างแล้ว ต่อจากนี้ก็ต้องเดินหน้าร้องศาลปกครองและหน่วยงที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือตนด้วยต่อไป
ในขณะเดียวกัน ทางผู้บริหารโรงเรียนใหม่ ได้ชี้แจงเป็นเอกสารประกาศของทางโรงเรียน ว่า เป็นระเบียบของทางโรงเรียนที่ใช้มานานแล้ว และใช้กับทุกโรงเรียนเหมือนกันคือผู้สอบได้ต้องนำใบ ปพ.ตัวจริง จากโรงเรียนเก่ามาแสดงกับทางโรงเรียน มิเช่นนั้นก็ไม่สามารถที่จะรับเด็กนักเรียนคนนั้นได้ เพราะผิดระเบียบของทางโรงเรียนหากรับเด็กนักเรียนเข้าไปก็ทำให้ทางโรงเรียนมีความผิดไปด้วย จึงอยากให้สังคมเห็นใจทางโรงเรียนด้วย
โดยที่ผ่านมา ในวันรายงานตัวทางโรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามประสานช่วยเหลือเพื่อให้ทางโรงเรียนเก่ารีบออกใบวุฒิการศึกษาหรือใบ ปพ.ตัวจริงออกมาให้ก่อน แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะทางโรงเรียนเก่ายืนกรานว่ายังไม่สามารถออกใบจริงให้ได้อ้างว่าต้องรอออกใบ ปพ.ตัวจริงพร้อมกันในวันที่ 18 เม.ย.68 ทำให้หมดหนทางที่โรงเรียน จะช่วยเหลือเด็กนักเรียนคนนี้เข้าเรียนได้ และจำเป็นต้องตัดสิทธิ์ไปตามระเบียบที่กำหนดของทางโรงเรียน