
สายดื่มสะดุ้ง! รัฐออกโรงเตือน “มีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน” เสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี (HIV) – คาดปี 2568 ยอดติดเชื้อพุ่งสูงกว่า 8,862 ราย

วานนี้ (16 เม.ย. 68) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงประชาชน เนื่องจากการจัดงานรื่นเริงในสถานที่ต่าง ๆ เป็นโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมาก และอาจมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือไม่สวมถุงยางอนามัย และมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ได้ง่าย
นายคารม กล่าวว่า สธ. ได้รายงานสถานการณ์ว่าปัจจุบัน การติดเชื้อ HIV ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าผู้ติดเชื้อ HIV ยังไม่ทราบสถานะติดเชื้อของตนเอง และยังไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา ทำให้คนเหล่านี้ สามารถถ่ายทอดเชื้อไปยังคู่นอนต่อไปได้

ทั้งนี้ ในปี 2568 มีการคาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 8,862 คน โดยการติดเชื้อรายใหม่นั้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 60 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย มีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ จำนวน 10,217 คน และมีผู้ติดเชื้อ HIV สะสมยังคงมีชีวิตอยู่ จำนวน 568,565 คน
นายคารม กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือไม่สวมถุงยางอนามัย ควรปฏิบัติตามที่ สธ. แนะนำ โดยการรับยา PEP Post-Exposure Prophylaxis ซึ่งจะต้องเริ่มรับประทานยาภายใน 72 ชั่วโมง หรือภายใน 3 วัน หลังมีความเสี่ยง และรับประทานติดต่อกันนาน 28 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV ตามคำแนะนำจากแพทย์ เนื่องจากมีรายละเอียดในเรื่องของวิธีการใช้

แน่นอนว่า เมื่อน้ำเมาเข้าปาก จะทำให้ขาดสติได้ ฉะนั้นอย่าลืมรักตัวเองกันด้วยนะครับ ป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด