
โดนแล้วไง! จากกรณีครูใส่ หน้ากากหมา ได้ถ่ายภาพและคลิปอานาจาร ตามสถานที่ต่างๆ ภายในโรงเรียน แล้วเผยแพร่ออกมาในกลุ่มลับบนโลกโซเชียล

ล่าสุดวันนี้ (26 ก.พ. 68) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีข้อร้องเรียนให้มีการตรวจสอบกรณีชายแต่งตัวคล้ายครูมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สวมหน้ากากถ่ายภาพและคลิปลามก ถอดเครื่องแบบเหลือเพียงเสื้อผ้าน้อยชิ้นในห้องเรียนและสถานที่ต่างๆ ภายในโรงเรียนลงในกลุ่มลับโซเชียล อีกทั้ง ผู้อำนวยการโรงเรียนยังออกมาพูดหน้าเสาธงว่า ไม่ให้เอาเรื่องไปบอกต่อ เกรงว่าจะกระทบชื่อเสียงทำให้นักเรียนและครูรู้สึกไม่สบายใจ
รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อข้อร้องเรียนดังกล่าว โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งการและให้ติดตามตรวจสอบเพื่อเอาผิด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบล่าสุดทราบว่าเป็นข้าราชการครู โดยได้ประสานให้ส่งตัวครูคนดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่ ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแล้ว รวมถึงได้ตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง และมีมาตรการทางปกครองและทางวินัย เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด หากกรณีนี้ พบว่าผิดวินัยร้ายแรงจริงจะได้รับโทษถึงขั้นไล่ออกจากราชการ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาในการสืบสวนข้อเท็จจริงไม่เกิน 7 วัน ส่วนการลงโทษทางวินัยนั้นต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สำหรับประเด็น ผอ.โรงเรียน ที่ได้รับทราบว่ามีการพูดในลักษณะเชิงข่มขู่หรือเห็นเหตุการณ์แล้วไม่ดำเนินการใดๆ นั้น อาจจะต้องทบทวนเรื่องการทำงานเพราะความปลอดภัยของเด็กต้องสำคัญกว่าชื่อเสียงโรงเรียน ส่วนเรื่องนักเรียนที่ถูกข่มขู่ว่าถ้าเอาเรื่องไปบอกคนอื่นอาจจะเดือดร้อน กระทรวงศึกษาธิการได้กำชับไปที่เขตพื้นที่และย้ำว่าไม่ให้มีการปกปิดข้อมูลใดๆ ขอให้นักเรียนสบายใจว่า สพฐ. และเขตพื้นที่การศึกษาทำงานกับโรงเรียนอย่างละเอียดรอบคอบ และคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กอย่างแน่นอน และจะติดตามทุกกรณีอย่างใกล้ชิดและเต็มที่
“ขอเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่าจะรับราชการในหน่วยงานใดต้องเคารพในหน้าที่ของตนเอง ไม่ทำให้ นักเรียนและผู้ปกครอง หรือประชาชนไม่สบายใจ โดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำชับและสั่งการเร่งด่วน ขอให้มั่นใจว่าความปลอดภัยของนักเรียนสำคัญกว่าชื่อเสียงของโรงเรียน โดยจะเร่งดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งไม่เกิน 7 วันจะรู้ผลแน่นอน ทั้งนี้ จะมีรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ จะพิจารณาเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพครู หากว่ามีการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพโทษร้ายแรงขั้นสูงสุด จะต้องเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ซึ่งทุกกระบวนการดำเนินงานในปัจจุบัน ดำเนินการเป็นไปด้วยความรวดเร็วและเคร่งครัดมากที่สุด” นายคารม ย้ำ
ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าอย่างไร รอติดตามทางเพจ “อีจัน” ได้เลยค่ะ