รวบบัญชีม้า! หลอกลูกสาว รองหัวหน้า พรรค.ปชป. สูญ 6 แสนบาท

จับบัญชีม้า! แก๊งคอลหลอกเงินลูกสาวชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้า พรรค.ปชป. อ้างเป็นดีเอสไอ สูญ 6 แสน

จับไม่หมดสักที! ตำรวจไซเบอร์จับบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินลูกสาว รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อ้างเป็นดีเอสไอ สูญ 6 แสนบาท

วันนี้ (15 พ.ย.67) ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข  รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5  จับกุมตัวนายสุเทพ อายุ 55 ปี  ที่ ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่จ.566/2567 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2567

ข้อหา ร่วมกัน ฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เปิดหรือยินยอม ให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด

สืบเนื่องจากมีนางสาวปภาวี อายุ 19 ปี (ลูกสาวนายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ) ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงิน โดยมีโทรศัพท์โทรมาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ชื่อ ร.ต.ท.อดิศักดิ์ ศรบัว สอบถามว่าได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย ให้ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้หรือไม่ เมื่อผู้เสียหาย ปฏิเสธว่าไม่ได้เปิดบัญชีแต่อย่างใดบุคคลดังกล่าวที่โทรมา แจ้งว่า เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ ให้ติดต่อทางบัญชีไลน์ ชื่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้ใช้บัญชีไลน์ โดยแจ้งว่าให้ส่งภาพถ่ายบัตรประชาชน ทางข้อความไลน์ แล้วสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเงินในบัญชีแล้วบอกว่า เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ ต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยได้โอนเงินครั้งแรก 56,000 บาท

หลังจากนั้นก็มีการเปิดวิดีโอคอลพูดคุย อีกฝ่ายใส่ชุดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้โอนเงินต่อไปให้เก๊งคลอเซ็นเตอร์ 100,000 บาท จำนวน  2 ครั้ง หลังจากแก๊งคลอเซ็นเตอร์ หลอกเงินไปแล้ว 3 ครั้ง ก็ให้ผู้เสียหายกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อไปหาเงินไม่เช่นนั้นจะทำให้ พ่อ รวมถึงญาติพี่น้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และจะแบล็คเมล์รูปที่วิดิโอคลอกันไว้ ผู้เสียหายจึงได้เดินทางกลับไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปเอาเงินที่ยายแล้วโอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก 393,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 650,000 บาท  หลังจากนั้นผู้เสียหายเริ่มรู้สึกผิดสังเกต และทราบว่าตนเองถูกหลอกแล้วจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครศรีธรรมราชเพื่อดำเนินคดี

จากการสอบสวนนายสุเทพ ให้การยอมรับว่า ได้รับจ้างเปิดบัญชีจากนายหน้าชาวจีน และได้ข้ามไปสแกนหน้าฝั่งประเทศกัมพูชา โดยช่องทางธรรมชาติ ฝั่ง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราชเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป