วันนี้ (1 ก.ค.67) เวลา 16.30 น. “หนุ่ม กรรชัย” พิธีกรชื่อดัง เดินทางมาที่ ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อฟังการไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก จากกรณีครอบครัวเชื่อมจิต ได้ยื่นฟ้องหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง ต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกันกระทำความผิดมาตรามาตรา 30 บัญญัติกิจการกระจายเสียงเสียงและโทรทัศน์ พ.ศ.2551 เป็นเจ้าของช่องหรือผู้ถือใบอนุญาตมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ควบคุมในการออกอากาศมีส่วนร่วมและการกระทำความผิด ซึ่งวันนี้เป็นการนัดไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก
จากการนำเสนอภาพของน้องไนซ์ และผู้ปกครอง ไปพาดหัวข่าวว่า อ้างตนเป็นพระพุทธเจ้ามาเกิด ซึ่งเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กมาตรา 27 และหมิ่นประมาทในการโฆษณา รวมถึงเป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนุ่ม กรรชัย บินไปถึง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.67) โดยมี กัน จอมพลัง, ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง, อี้ แทนคุณ บินไปให้กำลังใจ ทันทีที่ไปถึงสนามบินสุราษฎร์ธานี มีชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี มารอต้อนรับและให้กำลังใจแน่นอาคารสนามบินขาเข้า และมีนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือ “ทนายตุ๋ย” ทนายความส่วนตัวของหนุ่ม กรรชัย รอรับอยู่ด้านนอกอาคารผู้โดยสารขาเข้า
ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีสั่งพัก 15 นาทีระหว่างพิจารณาคดีครอบครัวเชื่อมจิตฟ้องหนุ่มกรรชัย และรายการโหนกระแส ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาเรียกร้องให้ลบทุกคลิปข่าวและคลิปรายการ ด้านทนายความปฏิเสธข้อเรียกร้อง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงาว่า สำหรับคดีนี้ศาลนัดพิจารณาคดีเวลา 13.30 น. ผ่านไป 2 ชั่วโมงกว่าศาลได้สั่งให้พักเป็นเวลา 15 นาทีระหว่างนั้นทางคุณต้นอ้อ เป็นหนึ่งและคุณอี้ แทนคุณได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอัพเดทความคืบหน้าว่า โดยต้นอ้อ บอกว่าตั้งแต่เดินขึ้นศาลไปได้เจอกับครอบครัวเชื่อมจิตครบทุกคน ซึ่งตัวเด็ก 8 ขวบเองมีการส่งสายตามองมาที่ตนเองด้วย มองแบบไม่ละสายตา ตนก็มองกลับ ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างจะยักคิ้วให้กัน ตนเป็นผู้ใหญ่พอที่จะไม่ถือสา เพราะมองว่าน้อง 8 ขวบก็ยังมีความเป็นเด็กไร้เดียงสาคนนึง
ขณะที่อี้ แทนคุณ บอกว่า หลังจากขึ้นศาลไป ศาลท่านให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยกันก่อน ก่อนจะมีการไต่สวนมูลฟ้องเพื่อที่ให้มีการพูดคุยตกลงกันซึ่งข้อถกเถียงกันวันนี้เป็นเรื่องการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยทนายฝั่งครอบครัวเชื่อมจิตมีการเรียกร้องให้ทางรายการโหนกระแสและช่อง 3 ลบคลิปข่าวทุกคลิปที่เกี่ยวกับเรื่องเชื่อมจิต เพราะหลังจากที่มีการถ่ายทอดสดออกไปแล้วแต่ยังมีการเก็บไว้ในแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าข่ายในลักษณะดิจิทัลฟุตปริ้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์อีก
หลังจากฟ้องรายการโหนกระแสและช่อง 3 แล้วทางทนายฝั่งครอบครัวเชื่อมติดบอกด้วยว่า จะฟ้องเพิ่มอีกทั้งหมด 30 คดี คือ สื่ออื่นๆและคนที่ออกมาเคลื่อนไหว ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อฯโจมตีครอบครัวเชื่อมจิต
ซึ่งตนมองด้วยความคิดเห็นส่วนตัวว่า สื่อฯก็ทำหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงสู่สาธารณชนและเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องความเชื่อที่มีการบิดเบือนไปจากพระพุทธศาสนาและเด็ก 8 ขวบคนดังกล่าวก็ไม่ควรที่จะมาอยู่ในจุดๆ นี้ ในช่วงเวลาแบบนี้เด็กควรได้ไปโรงเรียนเรียนหนังสือตามปกติแต่กลับต้องมาขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่หน้าบัลลังก์
นอกจากนี้อี้แทนคุณบอกอีกว่าทางฝั่งครอบครัวของเชื่อมจิตมีแฟนคลับแล้วผู้ที่เชื่อแบบเดียวกันคอยสนับสนุนเป็นกองเชียร์ ทำให้ทางฝั่งของเขาเองยังต้องมายืนอยู่ตรงจุดนี้ในลักษณะชื่นชม อวยกันเอง หากเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาคิดว่าเรื่องนี้อาจจะยุติลงได้ด้วยดีและการที่ครอบครัวเชื่อมจิตจะฟ้องบุคคลและสื่ออื่นๆอีก 30 คดี ตนมองว่าพ่อแม่น้อง 8 ขวบเหมือนเป็นการชักศึกเข้าบ้าน ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์ที่สุด คือ ทนายความ